รอยเตอร์ – องค์การการบินพลเรือนขององค์การสหประชาชาติจะดำเนินโครงการนำร่อง 2 โครงการที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้บรรดาสายการบินและประเทศต่างๆ แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงในพื้นที่ขัดแย้งได้ดียิ่งขึ้น องค์การดังกล่าวเผยเมื่อวานนี้ (26) หลังจากเครื่องบินโดยสารสัญชาติมาเลเซียถูกยิงตกเหนือยูเครนเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน
โครงการดังกล่าวถูกประกาศหลังเสร็จสิ้นการประชุมนาน 2 วันของคณะทำงานเฉพาะกิจของไอซีเอโอ ที่ได้รับมอบหมายภารกิจอันซับซ้อนในการบรรเทาความเสี่ยงต่างต่อเครื่องบินโดยสารซึ่งบินผ่านพื้นที่ขัดแย้ง
หน่วยงานที่มีฐานอยู่ที่เมืองมอนทรีออลแห่งนี้ระบุว่า โครงการนำร่องชิ้นแรกจะมุ่งพิจารณาว่าทำอย่างไร ระบบประกาศเตือนนักบิน (NOTAM) ถึงจะสามารถแบ่งปันข้อมูลความเสี่ยงคับขันและเร่งด่วนได้ดียิ่งขึ้น ส่วนโครงการที่สอง ซึ่งมี “บรรดาหุ้นส่วนรายสำคัญของไอซีเอโอ” เป็นผู้นำร่อง จะจัดตั้งระบบแบบรวมศูนย์เพื่อ “การแบ่งปันข้อมูลในพื้นที่ขัดแย้งอย่างฉับไว”
“ข้อเสนอแนะเหล่านี้จะช่วยรับประกันความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือที่เป็นพลเรือน ไม่ว่าสายการบินใดก็ตามที่พวกเขากำลังโดยสาร หรือที่ใหนก็ตามที่พวกเขากำลังบินอยู่” เดวิด แม็คมิลแลน ประธานคณะทำงานเฉพาะกิจกล่าวในถ้อยแถลง
คณะทำงานเฉพาะกิจกลุ่มนี้ถูกจัดตั้งขึ้นมา หลังจากเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH17 ถูกยิงตกเหนือภาคตะวันออกของยูแครนพร้อมปลิดชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือ 298 คน เหตุการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้บางบริษัทในอุตสาหกรรมนี้ออกมาเรียกร้องให้ไอซีเอโอ ซึ่งมีสมาชิก 191 ชาติ มีบทบาทในการแนะนำสายการบินต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องความเสี่ยงด้านความปลอดภัยให้มากกว่านี้
ไอซีเอโอไม่มีอำนาจสั่งเปิดหรือปิดน่านฟ้าในพื้นที่ขัดแย้งได้ และปัจจุบันก็ไม่ได้ให้คำแนะนำแบบจำเพาะเจาะจงถึงพื้นที่ที่ขีปนาวุธอาจคุกคามเครื่องบินพลเรือน
การที่จะมอบหมายให้ไอซีเอโอหรือหน่วยงานอื่นๆ รับหน้าที่เตือนเรื่องความเสี่ยงของสายการบินในพื้นที่ขัดแย้งอาจเป็นเรื่องยากทางการเมือง เพราะหมายถึงการขอให้ประเทศต่างๆ แบ่งปันข้อมูลอ่อนไหวเกี่ยวกับกิจการทหารและการเมืองของพวกเขา