xs
xsm
sm
md
lg

เผยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์-อียิปต์ “แท็กทีม” ส่งฝูงบินรบดอด “ทิ้งบอมบ์” ถล่มคลังแสงอิสลามิสต์ในลิเบีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่สองคนของสหรัฐฯ เผยวานนี้ (25 ส.ค.) ว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ลอบส่งฝูงบินทิ้งระเบิดโจมตีกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ในลิเบีย เมื่อช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา

การก่อเหตุโจมตี 2 ครั้งในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นการขยายขอบเขตการสู้รบอย่างฉับพลัน ในเวลาที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรในทวีปยุโรปต่างออกมาประณาม การที่ต่างชาติเข้าแทรกแซงปัญหาภายในของลิเบีย

นิวยอร์กไทม์ส คือสื่อเจ้าแรกที่เสนอรายงานการทิ้งระเบิดจู่โจมกวาดล้างครั้งนี้ ขณะที่กองกำลังอิสลามิสต์ในลิเบียก็ยืนยันว่ามีการก่อเหตุโจมตีขึ้นจริง

เจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งระบุกับเอเอฟพีโดยไม่ขอเปิดเผยนามว่า “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นผู้ดำเนินปฏิบัติการจู่โจม”

เมื่อสอบถามถึงรายงานข่าวที่ออกมา เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ผู้นี้ก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง”

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทั้งสองปัดว่า สหรัฐฯ ไม่ได้เข้าร่วม หรือให้ความช่วยเหลือใดๆ ในปฏิบัติการทิ้งระเบิดโจมตีทั้งสองครั้ง

ไทม์ส รายงานว่า การโจมตีทางอากาศระลอกแรกเปิดฉากขึ้นเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน โดยมุ่งโจมตีเป้าหมายหลายจุดที่กลุ่มติดอาวุธยึดครอง ในกรุงตริโปลี รวมถึง คลังแสงอาวุธขนาดย่อมแห่งหนึ่ง เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 6 คน

หนังสือพิมพ์เจ้านี้ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าของวันเสาร์ (23) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เปิดฉากโจมตีระลอกสอง ด้วยการตั้งเป้าทำลายแท่นยิงจรวด ยานพาหนะทหาร และโกดัง ทางตอนใต้ของเมืองหลวง
สมาชิกกลุ่มติดอาวุธจากเมืองมิสราตะห์ เดินผ่านกองปลอกกระสุนในบริเวณใกล้ท่าอากาศยานตริโปลี ของลิเบีย ภายหลังที่เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธจากเมืองมิสราตะห์กับกองกำลังจากเมืองซินตันทีต้องการช่วงชิงสนามบินแห่งนี้
ทั้งนี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อาจดำเนินปฏิบัติการจู่โจม เพื่อป้องกันท่าอากาศยานตริโปลีซึ่งในเวลานั้นใกล้จะถูกยึดครองเต็มที ทว่า กองกำลังติดอาวุธก็สามารถเอาชนะ และเข้าครอบครองสนามบินสำคัญแห่งนี้ได้สำเร็จในที่สุด
สภาพความเสียหายของอาคารหลังหนึ่งในกรุงตริโปลีที่ถูกจรวดโจมตี (19 ส.ค.)
หนังสือพิมพ์เจ้านี้ยังรายงานด้วยว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งทุ่มเงินหลายหลายพันดอลลาร์ซื้อเครื่องบินรบ และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ผลิตในสหรัฐฯ ได้จัดหาเครื่องบินทหาร อากาศยานเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ และนักบินเพื่อทิ้งระเบิดในลิเบีย ขณะที่อียิปต์เปิดทางให้อาณาจักรเศรษฐีน้ำมันแห่งนี้ใช้ฐานทัพอากาศของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าไคโรและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เปิดเผยแผนโจมตีทางอากาศให้เจ้าหน้าที่อเมริกันทราบหรือไม่ หรือแจ้งให้ทราบมากน้อยเพียงใด

เมื่อถามเจ้าหน้าที่อเมริกันถึงประเด็นนี้ พวกเขาไม่สามารถยืนยันได้ว่า อียิปต์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ปิดปฏิบัติการทิ้งระเบิดเป็นความลับ ไม่ให้สหรัฐฯ รับรู้หรือไม่

การจู่โจมกวาดล้างทั้งสองครั้งได้ส่งสัญญาณว่า สองชาติอาหรับกำลังกำลังรุกคืบเข้าสู่สมรภูมิด้วยตัวเอง ภายหลังก่อนหน้านี้เพียงแต่คอยสนับสนุนรัฐบาลลิเบีย ซีเรีย และอิรัก ในการต่อสู้เพื่อรักษาอำนาจและอิทธิพล

ทั้งนี้ อียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มองว่า กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ในภูมิภาคแถบนี้เป็นภัยคุกคามร้ายแรง และได้ผนึกกำลังกันต่อต้านสิ่งที่พวกเขาพิจารณาว่าเป็นภยันตรายต่อส่วนรวม

ในทางกลับกัน กลุ่มอิสลามิสต์เหล่านี้ซึ่งรวมตัวกันหลังเหตุการณ์ “อาหรับสปริง” ได้รับความช่วยเหลือจากกาตาร์และตุรกี

การทิ้งระเบิดโจมตีกวาดล้างมีขึ้น ในเวลาที่บรรดาชาติตะวันตกร่วมกันผลักดันให้มีการเจรจายุติความขัดแย้ง เพื่อระงับเหตุไม่สงบในลิเบีย ชาติที่ไม่มีกองทัพปกป้องประเทศ จนต้องพึ่งพากลุ่มติดอาวุธในการรักษาความมั่นคง

วานนี้ (25) อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสหรัฐฯ ได้ออกคำแถลงร่วมกันเพื่อประณาม “การสู้รบและก่อเหตุรุนแรงที่กำลังทวีความร้อนระอุ” ในลิเบีย และวิงวอนให้มีการเปลี่ยนผ่านสู่การปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอย่างสันติ

บรรดาชาติมหาอำนาจตะวันตกต่างแสดงความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อการก่อเหตุรุนแรง “ในเขตที่อยู่อาศัย สถานที่สาธารณะ และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ทั้งในรูปแบบการจู่โจมภาคพื้น และการโจมตีทางอากาศ”

คำแถลงฉบับดังกล่าวระบุว่า “การที่ต่างชาติเข้าแทรกแซงปัญหาของลิเบียจะยิ่งทำให้ความแตกแยกในปัจจุบันทวีความเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม และบ่อนทำลายกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยในลิเบีย” ทว่า กลับไม่มีการเอ่ยถึงเรื่องที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอียิปต์ร่วมมือกันโจมตีกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ทางอากาศแต่อย่างใด

เหล่ารัฐบาลชาติตะวันตกต่างรู้สึกยินดี ที่จะมีการหารือกันถึงประเด็นปัญหาในลิเบีย ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติซึ่งกำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ และกล่าวว่า “เราส่งเสริมให้ประชาคมนานาชาติร่วมกันสนับสนุนสถาบันต่างๆ ของลิเบีย ที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา”

กำลังโหลดความคิดเห็น