เอเอฟพี - ยูเครนออกมาระบุในวันนี้ (25 ส.ค.) ว่าเกิดการสู้รบระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนของตนกับขบวนรถถังและยานเกราะกว่าสิบคันที่ข้ามพรมแดนมาจากฝั่งรัสเซียใกล้กับทะเลอาซอฟ ขณะที่รัสเซียก็เตรียมส่งขบวนรถบรรเทาทุกข์เข้ายูเครนรอบที่สอง
เลโอนิด มาโตย์ฮิน โฆษกความมั่นคงของยูเครนบอกกับเอเอฟพีว่า ชายแดนยูเครนบริเวณใกล้กับเมืองอุตสาหกรรม "มาริวโปล" ถูกขบวนรถถังและยานเกราะกว่าสิบคันบุกฝ่าเข้ามา
"ขบวนรถถังเหล่านั้นถูกกองกำลังป้องกันชายแดนหยุดยั้งไว้ การสู้รบยังคงดำเนินอยู่ในตอนนี้" เขากล่าวโดยที่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ
มาริวโปล เป็นเมืองท่าชายฝั่งทะเลอาซอฟที่มีประชากรประมาณ 500,000 คน อยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดโดเนตสก์ ห่างจากชายแดนรัสเซียประมาณ 50 กิโลเมตร และห่างจากเมืองโดเนตสก์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายกบฏประมาณ 110 กิโลเมตร
เมืองท่าแห่งนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมโลหะและเป็นที่ตั้งของโรงงานโลหะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกของยูเครน
ประชาชนในเมืองนี้ได้มีส่วนร่วมในการลงประชามติเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในการจะแยกตัวออกจากยูเครนเพื่อกลายเป็นส่วนหนึ่งของ "สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์" แต่ถูกกองทัพยูเครนเข้าควบคุมสถานการณ์เอาไว้เป็นเวลาหลายเดือน
ในวันที่ 9 พฤษภาคม ได้เกิดการสู้รบอย่างดุเดือดที่เมืองนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตสิบกว่าราย หลายวันต่อมา ทางกองทัพยูเครนก็สามารถขับไล่พวกกบฏฝักใฝ่รัสเซียออกจากเมืองไปได้
นับตั้งแต่นั้นมา มาริวโปล ก็ได้กลายเป็นที่ทำการผู้ว่าการจังหวัดโดเนตสก์และทีมบริหารของเขา ซึ่งเป็นคนของทางฝ่ายกรุงเคียฟ โดยคนเหล่านั้นต้องระเห็จออกมาจากโดเนตสก์หลังจากที่ถูกพวกกบฏเข้ายึดครอง
เจ้าหน้าที่บริหารในพื้นที่ดังกล่าวได้ประกาศในวันนี้ (25 ส.ค.) ว่าทั้งผู้ว่าฯ และทีมบริหารยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่ได้หนีออกไปจากสำนักงาน โดยการประกาศครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อยุติความตื่นตระหนกภายในเมือง
รัสเซียเตรียมส่งขบวนรถบรรเทาทุกข์รอบสอง
อีกด้านหนึ่ง เซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ระบุในวันนี้ (25 ส.ค.) ว่าได้แจ้งต่อยูเครนแล้วว่าจะส่งขบวนรถบรรเทาทุกข์ชุดที่สองเข้าไปในภาคตะวันออกของยูเครนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
"เมื่อวานนี้เราได้ส่งเอกสารแจ้งอย่างเป็นทางการไปให้กับรัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับความตั้งใจของเราที่จะส่งขบวนรถบรรเทาทุกข์ชุดถัดไป พร้อมด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนดำเนินการ" ลาฟรอฟ กล่าวในงานแถลงข่าว
ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ส่งรถบรรทุก 230 คันเข้าไปในภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อวันศุกร์ (22 ส.ค.) เพื่อส่งความช่วยเหลือให้กับเมืองลูกานสก์ โดยที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากกาชาด ซึ่งทางรัสเซียระบุว่า สิ่งของที่อยู่บนขบวนรถเหล่านั้นล้วนเป็นข้าวของเครื่องใช้สำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และกล่าวหายูเครนว่าพยายามจะเตะถ่วงภารกิจความช่วยเหลือนี้
ขณะที่ยูเครนและชาติตะวันตกพากันประณามการกระทำครั้งนั้นของรัสเซีย อย่างไรก็ตามขบวนรถเหล่านั้นก็สามารถเดินทางกลับรัสเซียได้ในวันเสาร์ (23 ส.ค.) โดยที่ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
"เราพร้อมที่จะทำตามเงื่อนไขของยูเครน เพื่อที่จะได้ส่งขบวนรถเข้าไปในเส้นทางเดิมที่มีกองกำลังป้องกันชายแดนและเจ้าหน้าที่ศุลกากรของยูเครนเข้าร่วมดังเช่นคราวก่อน ให้ได้โดยเร็วที่สุด" ลาฟรอฟ กล่าว
เขาเชื่อว่าการดำเนินการน่าจะสำเร็จได้ภายในสัปดาห์นี้ พร้อมระบุอีกว่า คณะกรรมการกาชาดสากลและองค์กรอื่นๆ ได้เตือนถึงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในภาคตะวันออกของยูเครนที่กำลังจะแย่ลง
ทั้งนี้ การสู้รบในในลูกานสก์และโดเนตสก์ ระหว่างกองทัพยูเครนกับพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซีย ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 2,200 ราย ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา นอกจากนี้หลายฝ่ายยังได้กังวลเพิ่มมากขึ้น เกี่ยวกับจำนวนพลเรือนที่บาดเจ็บล้มตาย เมื่อกองทัพรัฐบาลได้กดดันลึกเข้าไปในดินแดนที่ถูกยึดครองโดยฝ่ายกบฏ