เอพี – รัฐบาลเม็กซิโกประกาศจำนวนตัวเลขพลเมืองสูญหายล่าสุดที่เพิ่มขึ้นถึง 22,322 คน นับตั้งแต่ประเทศเข้าสู่สงครามยาเสพติดในปี 2006 โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม 2014 เพียงเดือนเดียว มียอดสูญหายถึง 8,000 คน
มาเรียนา เบนิเตซ (Mariana Benitez) ผู้ช่วยอัยการเม็กซิโก แถลงว่าพลเมืองเม็กซิกันจำนวน 12,532 คนสูญหายในช่วงระหว่างปี 2006 - 2012 ในสมัยรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีเม็กซิโก เฟลิเป คาลเดรอน (Felipe Calderon) ประกาศทำสงครามยาเสพติดกับเครือข่ายลักลอบขนยาเสพติดของประเทศ และนอกเหนือนี้ มีประชาชนชาวเม็กซิกันถึง 9,790 คนได้หายตัวไปนับตั้งแต่คาลเดรอนก้าวเข้าสู่อำนาจเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2012
และเบนิเตซยังแถลงเพิ่มเติมว่า รายชื่อคนสูญหายชุดแรกในสมัยรัฐบาลคาลเดรอนเพิ่มขึ้นถึง 29,707 คน แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้สรุปตัวเลขสุดท้ายของคนสูญหายที่ 12,532 คน หลังจากพบว่าจำนวนที่เหลือได้ถูกแจ้งยืนยันว่า ยังคงมีชีวิตหรือไม่ก็เสียชีวิตไปแล้ว
เบเนเตซอธิบายต่อถึงรายชื่อผู้สูญหายชุดที่สองในสมัยอดีตประธานาธิบดี เอนริเก้ เปนา นีเอโต ที่ระบุว่ามีเม็กซิกันจำนวน 23,234 สูญหายไปในช่วงวันที่ 1 ธันวาคม 2012 – วันที่ 31 กรกฎาคม 2014 ในขณะที่ชาวเม็กซิกันจำนวน 13,444 คน จากทั้งหมด 23,234 คนสามารถตามตัวพบ แต่อีก 9,790 ยังคงสูญหาย เบเนเตซกล่าว
จากทั้งหมดพบว่ารัฐบาลเม็กซิโกได้ประกาศตัวเลขยอดสูญหายขัดกันเริ่มตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2013 ที่ตัวเลขอย่างเป็นทางการระบุว่ามีพลเมืองชาวเม็กซิกันร่วม 26,000 คนที่ไม่สามารถพบร่องรอย
ในเดือนพฤษภาคม 2014 รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของเม็กซิโก มิเกล แองเจิล โอโซริโอ ชอง (Miguel Angel Osorio Chong)ได้แถลงว่า ตัวเลขคนสูญหาย 8,000 คน แต่ชองไม่ได้ระบุว่า มีรายชื่อสูญหาย 2 ชุด และทั้งปฎิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวหลังจากนั้น
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า มีจำนวนเท่าใดที่ถูกสังหาร หรือลักพาตัวโดยขบวนการค้ายาเสพติด ที่ทางกลุ่มค้ายามักฝังร่างเหยื่อไว้หลังจากสังหารแล้ว
และท้ายสุดเบเนเตซแถลงว่า สาเหตุจากการสูญหายไม่ใช่มาจากสาเหตุความรุนแรงของสงครามยาเสพติดเท่านั้น แต่เกิดขึ้นจากสาเหตุอื่นเช่นกัน รวมปถึงความสมัครใจของผู้ที่ต้องการหลบหนีจากปัญหาในครอบครัว การถูกลัพาตัว การอพยพข้ามถิ่นภายในเม็กซิโก หรือเดินทางออกนอกประเทศ การถูกคุมขังในเรือนจำ รวมไปถึงการเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม เบเนเตซปฎิเสธที่จะตอบคำถามนักข่าวเช่นกันหลังจากเสร็จสิ้นการแถลงยอดผู้สญหายชาวเม็กซิกันอย่างเป็นทางการแล้ว
