ตำรวจชิลียิง “แก๊สน้ำตา” สลายการชุมนุมกลุ่มนักศึกษากลางเมืองหลวง

เอพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ตำรวจปราบจลาจลชิลีใช้แก๊สน้ำตาพร้อมการฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่กลุ่มนักศึกษาระหว่างการเดินขบวนประท้วงในกรุงซานติอาโก เมืองหลวงของประเทศ ในวันพฤหัสบดี (21 ส.ค.)

แม้จนถึงขณะนี้จะยังไม่มีรายงานผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง รวมถึงยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขที่แน่ชัดของผู้ประท้วงที่ถูกจับกุม แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดถือเป็นเหตุตึงเครียดที่สุดในรอบหลายปีที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงของชิลี

รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มนักศึกษาจำนวนหลายหมื่นคนได้รวมตัวกันเดินขบวนประท้วงในกรุงซานติอาโก เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจของพวกเขาต่อความล่าช้าในการปฏิรูปการศึกษาของรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีมิเชเญ บาเชเล็ต เฮเรีย ผู้นำหญิงวัย 62 ปี ที่เพิ่งได้กลับมาครองอำนาจเป็นสมัยที่ 2 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

สื่อท้องถิ่นในชิลีรายงานว่า ในตอนแรกการเดินขบวนประท้วงของกลุ่มนักศึกษานั้นดำเนินไปอย่างสงบเรียบร้อย แต่ในเวลาต่อมากลับพบ “กลุ่มคนสวมหน้ากากไม่ทราบฝ่าย” เข้ามาปะปนกับกลุ่มนักศึกษา ก่อนที่คนกลุ่มนี้จะเริ่มก่อเหตุรุนแรงทั้งการทำลายสัญญาณไฟจราจรและป้ายจราจรตามท้องถนน การจุดไฟในถังขยะ ตลอดจนการขว้างปาก้อนหินและสิ่งของนานาชนิดเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเหตุให้ทางตำรวจตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่เพื่อควบคุมสถานการณ์

ด้านแกนนำฝ่ายจัดการประท้วงอ้างว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้สูงถึงราว 80,000 คน สวนทางกับข้อมูลที่มีการเปิดเผยโดยกระทรวงมหาดไทยชิลีที่อ้างว่าจำนวนผู้เข้าร่วมประท้วงมีเพียง 25,000 คน และถึงแม้จะไม่มีตัวเลขผู้เข้าร่วมการประท้วงที่แน่ชัด แต่การประท้วงของกลุ่มนักศึกษาครั้งนี้ส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัดอย่างหนักในย่านใจกลางกรุงซานติอาโก