เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างในวันพฤหัสบดี (21 ส.ค.) โดยระบุว่าจำนวนของพวก “นักรบญิฮัด” ที่เป็นชาวต่างชาติใน “ซีเรีย” เวลานี้ได้เพิ่มเป็นกว่า 12,000 คน โดยทั้งหมดมาจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกรวมถึงสหรัฐอเมริกา
มารี ฮาร์ฟ รองโฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่า ทางกระทรวงฯ คาดว่ามีนักรบต่างชาติประมาณ 12,000 คนที่เดินทางเข้าไปร่วมรบในสงครามกลางเมืองซีเรียที่ปะทุขึ้นตั้งแต่ปี 2011 และนักรบชาวต่างชาติเหล่านี้มีที่มาจากอย่างน้อย 50 ประเทศทั่วทุกมุมโลก รวมถึง “ชาวอเมริกันกลุ่มเล็กๆ” ซึ่งอาจยังคงปักหลักอยู่ในซีเรียเวลานี้
อย่างไรก็ดี แม้รองโฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จะไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดว่ามีพลเมืองอเมริกันจำนวนมากน้อยเพียงใดที่เดินทางเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามกลางเมืองซีเรีย แต่แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รายหนึ่งในรัฐบาลสหรัฐฯออกมายอมรับว่ามีพลเมืองอเมริกันมากกว่า 100 คนที่ “เดินทาง” หรือ “พยายามเดินทาง” เข้าไปในซีเรียด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อเข้าร่วมในความขัดแย้งดังกล่าว และมีพลเมืองอเมริกันจำนวนหนึ่งเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธของพวกมุสลิมสุหนี่หัวรุนแรงอย่างกลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State : IS)
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลวอชิงตันเคยเน้นย้ำกับประชาคมโลกว่า มีพวกนักรบชาวตะวันตกแฝงตัวอยู่ในกลุ่มหัวรุนแรงในซีเรียและอิรักจริง แต่ไม่เคยออกมายอมรับอย่างเป็นทางการมาก่อนว่ามีพลเมืองอเมริกันไปเข้าร่วมกับกลุ่มเหล่านี้ มีเพียงการออกโรงเตือนให้นานาประเทศเฝ้าระวังภัยคุกคาม หากชาวตะวันตกกลุ่มนี้เดินทางกลับประเทศ
ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดด้านความมั่นคงกับผู้นำจากหลายประเทศทั่วโลก โดยเป็นที่คาดกันว่า โอบามาจะหยิบยกประเด็นเรื่องภัยคุกคามจากพวกนักรบชาวต่างชาติในซีเรีย และอิรัก มาเป็นหัวข้อหลักในการหารือกับเหล่าผู้นำโลก เพื่อหาทางรับมือต่อไป
