เอเอฟพี - ภาพยนตร์ที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียงในสังคมแดนภาระ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการลอบสังหาร “อินทิรา คานธี” อดีตนายกรัฐมนตรีอินเดีย มีกำหนดฉายในวันศุกร์นี้ (22 ส.ค.) ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้สั่งห้ามฉายหนังเรื่องนี้ เนื่องจากมันให้การยกย่องผู้ที่สังหารเธอ
“Kaum De Heere,” หรือ “Diamonds Of The Community” บอกเล่าเรื่องราวของบอร์ดีการ์ดชาวซิกข์ของคานธี ผู้ที่ลั่นไกสังหารนายกรัฐมนตรีหญิงรายนี้เมื่อปี 1984 ที่ชัดเจนว่าเป็นการล้างแค้นต่อปฏิบัติการทางทหารที่คร่าชีวิตชาวซิกข์หลายร้อยคน
ฝ่ายยุวชนของพรรคคองเกรสของคานธีได้เขียนหนังสือถึง นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน โดยระบุว่าภาพยนตร์เรื่องนี้บรรยายบทบาทของบอดี้การ์ด 2 คนนั้นในฐานะวีรบุรุษ
“ผมเขียนหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อหยุดยั้งการเผยแพร่ภาพยนตร์เรื่องนี้” วิกรัมจิต ชาตรี ประธานสภายุวชนปัญจาบประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยท้องถิ่นของพรรคคองเกรส ระบุ
ชาตรีระบุว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ส่งสัญญาณที่ผิดๆ แก่เยาวชนที่ไม่เป็นมิตรกับชาวซิกข์ในรัฐปัญจาบ ทางตอนเหนือของอินเดีย ดินแดนที่กองทัพปฏิบัติการ “บลูสตาร์” (ดาวสีน้ำเงิน) บุกวิหารทองคำ เข้าปราบปรามกลุ่มแบ่งแยกดินแดนติดอาวุธชาวซิกข์ ที่ต้องการประกาศเอกราชบนแผ่นดินเกิดของพวกเขาเมื่อปี 1984
“ร้อยละ 70 ของเยาวชนของเราข้องเกี่ยวกับยาเสพติดและพวกเขาส่วนมากไม่มีงานทำ” ชาตรีบอกกับเอเอฟพี
ชาตรีกล่าวเตือนผ่านผู้สื่อข่าวในสัปดาห์นี้ว่า การประท้วงอาจเกิดขึ้นทั่วรัฐปัญจาบในช่วงการฉายของภาพยนตร์เรื่องนี้
เจ้าหน้าที่กระทรวงกฎระเบียบด้านสารสนเทศและการออกอากาศบอกกับเอเอฟพีในวันพฤหัสบดี (21) ว่าสืบเนื่องจากข้อถกเถียงในเรื่องดังกล่าว ทางกระทรวงจึงกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะอนุญาตให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เดินหน้าฉายในอินเดียในวันศุกร์นี้ (22) ตามกำหนดการหรือไม่
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า หน่วยข่าวกรองของแดนภารตะได้ออกคำเตือนถึงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในตอนเหนือของประเทศ อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยอินเดียกล่าวว่าทางกระทรวงยังไม่สามารถยืนยันรายงานดังกล่าว
ด้วยคำสั่งของคานธี เมื่อปี 1984 กองทัพแดนภารตะบุกถล่มวิหารทองคำในเมืองอัมริทสาร์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวซิกข์ เพื่อควานหากลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนเพื่อชาวซิกข์ที่กบดานอยู่ภายใน
หลังจากนั้นไม่กี่เดือนในเดือนตุลาคม บอดี้การ์ด 2 คนของคานธีได้ยิงเธอเสียชีวิต กระตุ้นให้เกิดการแก้แค้นกลับด้วยความรุนแรงต่อชุมชนชาวซิกข์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3,000 ราย ส่วนใหญ่อยู่ตามถนนหนทางของกรุงเดลี
เบียนท์ ซิงห์ หนึ่งในบอดี้การ์ดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสังหารไม่นานหลังการฆาตกรรม คานธี ขณะที่ สัตวันท์ ซิงห์ บอดี้การ์ดอีกคนถูกแขวนคอในเวลาต่อมา
ราวินเดอร์ ราวี ผู้กำกับได้ออกมาปกป้องภาพยนตร์ของเขาเรื่องนี้ที่ตัวละครพูดภาษาปัญจาบ โดยระบุว่า “ไม่มีวีรบุรุษหรือตัวร้ายอะไรทั้งนั้น”
“ทุกอย่างที่ผมกำลังทำอยู่นี่คือบอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์ เกี่ยวกับ 2 ครอบครัวที่ไม่ได้เป็นเรื่องการเมืองหรือหวังสร้างปัญหาใดๆ” ราวีบอกกับหนังสือพิมพ์ฮินดูเมื่อวันจันทร์