เอเอฟพี - หน่วยกู้ภัยหลายพันคนพากันค้นหาตามบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่องในวันนี้ (21 ส.ค.) จากเหตุดินถล่มทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น โดยมีความหวังเพียงน้อยนิดว่าจะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 39 ราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานดับเพลิงและทหาร ได้ทำงานร่วมกันตลอดทั้งคืนท่ามกลางความรู้สึกสิ้นหวังที่จะได้พบกับผู้ที่มีรายงานว่าสูญหาย 26 ราย ในกองซากปรักหักพัง
จำนวนตัวเลขผู้สูญหายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มี 7 ราย หลังจากที่มีรายงานเพิ่มเติมเข้ามาจากผู้มีอำนาจบริหารดูแลในท้องถิ่น
บ้านหลายสิบหลังต้องถูกฝังอยู่ใต้โคลน เมื่อพื้นที่ไหล่เขาได้พังถล่มลงมาหลังจากที่มีฝนตกอย่างหนักในฮิโรชิมา ซึ่งตกแค่ 3 ชั่วโมงก็มากกว่าที่ค่าเฉลี่ยของทั้งเดือน
ตลอดวันพุธ (20 ส.ค.) หน่วยกู้ภัยยังพอจะมีความหวังอยู่บ้าง เมื่อมีผู้รอดชีวิตที่เอาตัวรอดด้วยการขึ้นไปหลบภัยที่ชั้นบนของบ้านแล้วได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัย แต่กระนั้นก็ยังมีอีกหลายร่างที่ถูกขนออกมาแบบไร้ชีวิต ห่อด้วยผ้าห่มและพลาสติก
บรรดาสมาชิกของทีมเบสบอลจากโรงเรียนมัธยมในท้องถิ่น ได้ช่วยกันเฝ้าระวังตลอดทั้งคืนให้กับบ้านของสมาชิกรายหนึ่ง โดยพยายามส่องไฟไปยังบ้านที่จมโคลนครึ่งหลัง
"ผมสังเกตเห็นว่าเขาหายไป เราเคยเรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนเดียวกัน ผมอยากให้เขาได้รับการช่วยเหลือเร็วๆ เพราะเขาคงกำลังเจ็บอยู่แน่ๆ" วัยรุ่นคนหนึ่งบอกกับสถานีโทรทัศน์ฟูจิ
สถานีโทรทัศน์ฟูจิ ยังรายงานด้วยว่า การค้นหาผู้ที่ยังติดอยู่ในซากบ้านเรือนได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (21 ส.ค.) แต่ก็ยังไม่เจอเด็กชายที่เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมเบสบอลและพ่อของเขาเลย
ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นว่าทหารกำลังใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าเคลียร์ซากปรักหักพัง ขณะที่ตำรวจก็ดึงพวกต้นไม้ออกจากบ้านเรือน นอกจากนี้ยังมีสุนัขตำรวจถูกนำมาใช้ในการค้นหาผู้รอดชีวิตในบริเวณที่เต็มไปด้วยโคลนแห่งนี้
ในกลุ่มผู้เสียชีวิตทั้ง 39 ราย มีสองพี่น้องอายุ 2 และ 11 ขวบ รวมอยู่ด้วย โดยเด็กชายทั้งสองคนนี้ได้ถูกดึงตัวขึ้นมาจากบ้านที่จมใต้โคลน
เพื่อนบ้านรายหนึ่งที่มาช่วยค้นหา บอกกับทีวีฟูจิว่า บริเวณชั้นล่างของบ้านหลังนั้นเต็มไปด้วยโคลน
"เราไปเอาพลั่วมาจากบ้านใกล้ๆ พ่อแม่เด็กเชื่อว่าสองพี่น้องน่าจะยังพอได้ยินเสียง จึงร้องตะโกนว่า หายใจเข้าไว้ แล้วช่วยตอบด้วย แม่เด็กที่นั่งอยู่บนโคลนตะโกนอยู่แบบนั้นไม่ยอมหยุด" เขากล่าว
ด้านหน่วยกู้ภัยวัย 53 ปีที่ต้องเสียชีวิตจากดินถล่มระลอกที่ 2 เมื่อวันพุธ (20 ส.ค.) ก็ถูกพบร่างในวันนี้ (21 ส.ค.) เขาตายโดยที่อุ้มเด็กทารกคนหนึ่งอยู่ในวงแขน
ชายคนดังกล่าวคือ โนริโยชิ มาซาโอกะ ทำงานเป็นพนักงานดับเพลิงมา 35 ปี เขาได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้จนปลอดภัยไป 5 ราย แล้วก็กลับไปค้นหาต่อ แต่แล้วก็ต้องมาเสียชีวิตด้วยดินถล่มระลอกที่สอง
หนังสือพิมพ์ โตเกียว ชิมบุน รายงานว่า กลุ่มคนที่เขาเข้าไปช่วยก่อนเสียชีวิตนั้นมีทั้งหมด 8 คน โดยมีพ่อและลูกชายวัย 3 ขวบรวมอยู่ในนั้นด้วย
ผู้เห็นเหตุการณ์บอกกับหนังสือพิมพ์ว่า ผู้เป็นพ่อได้โยนลูกชายให้มาซาโอกะรับไว้ในอ้อมแขน ขณะเดียวกันเขาก็เห็นว่าดินโคลนระลอกที่สอง กำลังถล่มลงมาจากไหล่เขา แล้วเขาก็เห็นมาซาโอกะกับเด็กถูกดินโคลนกลืนหายไปแบบไร้หนทางช่วยเหลือ
ผู้คนที่ยืนดูอยู่ในตอนนั้น ระบุว่า พ่อเด็กที่ยังอยู่ตรงนั้น ได้ร้องตะโกนเรียกชื่อลูกชายตัวเองสุดเสียง
สำหรับการทำงานของหน่วยกู้ภัยในวันพฤหัสบดี (21 ส.ค.) ต้องเผชิญกับความเป็นไปได้ที่สภาพอากาศอาจจะเลวร้าย จนทำให้ภูเขาที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนต้องถล่มอีก
ฝนนอกฤดูที่ตกลงมาอย่างหนักในญี่ปุ่นช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดดินถล่มและน้ำท่วมในประเทศที่มีประชากรหนาแน่นและมีภูมิประเทศเป็นภูเขาแห่งนี้หลายพื้นที่
ในเขตหนึ่งของพื้นที่ประสบภัยครั้งนี้ ตอนเวลา 4.00 น. ของวันพุธ (20 ส.ค.) มีการบันทึกปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาได้ 217 มิลลิเมตร ภายในเวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมง ซึ่งนับว่าเป็นปริมาณที่มากกว่าค่าเฉลี่ย 143 มิลลิเมตรของเดือนสิงหาคม