เอเอฟพี - ทางการญี่ปุ่นระบุในวันนี้ (20 ส.ค.) ถึงตัวเลขล่าสุดจากเหตุการณ์ดินถล่มครั้งใหญ่ทางภาคตะวันตก ที่ทำให้บ้านเรือนจำนวนมากต้องจมอยู่ใต้โคลน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 รายและยังมีผู้สูญหายอีก 7 ราย
ภาพจากโทรทัศน์แสดงให้เห็นถึงบ้านเรือนหลายสิบหลังต้องจมอยู่ใต้โคลน หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักจนทำให้ไหล่เขาพังถล่มลงมา ขณะที่หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินเข้าสำรวจบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต
โฆษกผู้หนึ่งของกองบังคับการตำรวจเมืองฮิโรชิมา กล่าวกับเอเอฟพีว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตอยู่
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานจัดการภัยพิบัติของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยอดผู้เสียชีวิตมีอย่างน้อย 27 รายและยังมีอีก 10 รายที่ยังไม่สามารถระบุสถานภาพได้
จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดิมที่มีเพียงแค่ 4 รายในตอนแรก ซึ่งมีรายหนึ่งเป็นเด็กอายุ 2 ขวบ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยวัย 53 ปีถูกนับรวมอยู่ในนั้นด้วย เขาเสียชีวิตเพราะดินถล่มระลอกที่ 2 หลังจากที่ได้ช่วยผู้อื่นจนปลอดภัยไป 5 ราย
ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นถึงบ้านเรือนจำนวนมากถูกฝังไว้ใต้โคลน กรอบหน้าต่างที่เป็นไม้แตกออกเพราะรับน้ำหนักของโคลนเอาไว้ไม่ไหว
กระแสน้ำเชี่ยวสีน้ำตาลพุ่งทะลักออกจากภูเขาซึ่งอยู่ด้านหลังของบ้านเรือนและไหลผ่านเข้ามายังบริเวณซากบ้านเรือนที่พังเสียหาย เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของหน่วยกู้ภัยที่กำลังพยายามค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากเหล่านี้
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินต้องปีนขึ้นไปบนชั้นสองและบนหลังคาของบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต
หลายภาพแสดงให้เห็นว่ามีดินถล่มอย่างน้อย 5 จุด บางจุดมีต้นไม้ที่หลุดออกมาทั้งรากและก้อนหินกลิ้งลงมาจากไหล่เขากระแทกเข้าใส่บ้านในแถบชานเมืองแห่งนี้ ที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่ทำกสิกรรม
ชายคนหนึ่งชี้มือชี้ไม้ไปทางบ้านหลังหนึ่งที่ยังจมอยู่ใต้โคลน แล้วบอกกับเอ็นเอชเคว่า “บ้านผมอยู่ตรงนั้น พังราบหมดแล้ว”
เขายังชี้ไปทางอื่นแล้วพูดว่า “เห็นขาข้างหนึ่งโผล่ออกมาจากโคลน ตอนนี้หน่วยกู้ภัยกำลังพยายามเช็คดูว่ายังมีชีวิตอยู่ไหม แต่สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือช่วยเขาออกมาก่อน”
ขณะที่ชายอีกคนบอกกับนักข่าวว่า เขาเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีถูกดินโคลนกวาดเอาไปหมด เขาได้ยินเสียงดินถล่มดังกึกก้อง และทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นกะทันหันมาก
หญิงสาวรายหนึ่งเล่าถึงเหตุผลที่รอดจากความตายมาได้นั้น เป็นเพราะตอนที่ดินกำลังถล่มลงมา เธออยู่บริเวณตรงกลางของตัวบ้าน ขณะที่รอบบ้านทุกด้านนั้นพังหมด
ทางการได้จัดส่งกำลังทหารเพื่อเข้ามาช่วยเหลือในจุดเกิดเหตุหลังจากที่มีการร้องขอโดยหน่วยงานรัฐในท้องถิ่น
ด้านนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่ยกเลิกการเล่นกอล์ฟในวันหยุดเพื่อมารับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้ ระบุว่า ได้ระดมทรัพยากรจำนวนมากให้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย
เขาบอกกับนักข่าวในกรุงโตเกียวว่า ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือแบบบูรณาการ โดยให้ระวังถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดฝนตกหนักขึ้นอีก
“ผมยังได้สั่งให้พวกเขานำเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเองเข้าไปอีกหลายร้อยคน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของปฏิบัติการช่วยเหลือ” นายกฯ อาเบะ กล่าว พร้อมกับระบุเพิ่มเติมว่า ได้ส่งรัฐมนตรีรายหนึ่งเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุด้วย
ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้เตือนว่า อาจจะมีฝนตกหนักเกิดขึ้นอีกในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้บริเวณที่ได้รับความเสียหายจากโคลนขนาดหลายตัน มีความเสี่ยงสูง ที่จะเกิดดินถล่มขึ้นอีก
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นต้องรับมือกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จนทำให้เกิดดินถล่มขนาดเล็กอยู่หลายครั้ง รวมถึงยังมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยในบางครั้งก็มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เหล่านั้น
แม้ว่าจะมีการใช้คอนกรีตเพื่อเสริมความแข็งแรงตามไหล่เขา แต่ญี่ปุ่นซึ่งเต็มไปด้วยภูเขา และมีประชากรหนาแน่น ก็ยังมีแนวโน้มที่จะเกิดภัยพิบัติลักษณะนี้อยู่เรื่อยๆ
ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายจากเหตุการณ์ดินถล่มบนเกาะโอชิมะ ทางตอนใต้ของกรุงโตเกียว ซึ่งเกิดจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเพราะอิทธิพลของไต้ฝุ่น
ขณะที่การเกิดดินถล่มในฮิโรชิมาก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก โดยในปี 1999 มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 ราย จากดินถล่มมากกว่า 320 ครั้งในเมืองนี้ ซึ่งเหตุดินถล่มเหล่านั้นได้เกิดขึ้นในจุดที่เกิดเหตุครั้งล่าสุดนี้ด้วย
มีพื้นที่ประมาณ 32,000 จุดในแถบนั้น ที่ถูกระบุว่าเป็นจุดเสี่ยงที่จะเกิดดินถล่ม โดยผู้เชี่ยวชาญบอกว่าภูเขาหลายแห่งประกอบด้วยหินแกรนิตที่แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้พื้นดินบริเวณนั้นไม่มั่นคงเวลาที่เปียกฝน