เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการยูเครนเผชิญเรื่องน่าปวดหัวครั้งใหญ่ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเกือบ 3,000 นายในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศโบกมือลาการทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพราะไม่ต้องการทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวก “ฝักใฝ่รัสเซีย”
อันตอน เกราชเชนโก ที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทยยูเครน ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวผ่านสำนักข่าว “ยูเอ็นเอ็น” ในวันพุธ (20) โดยยอมรับว่าในขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 1,227 นายในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศยื่นใบลาออกจากราชการ ขณะที่อีก 1,490 นายถูกปลดเพราะไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย ซึ่งเท่ากับเป็นการทรยศต่อ “คำสาบาน” ของการเป็นตำรวจ
ที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทยยูเครนยอมรับว่า เหตุผลสำคัญของวิกฤตดังกล่าว มาจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ไม่ต้องการทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกที่มีเชื้อสายรัสเซีย และสนับสนุนการแยกดินแดนไปรวมกับรัสเซีย
ก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนที่แล้ว อาร์เซน อวาคอฟ รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครนออกโรงผ่านสื่อ ประณามการทำหน้าที่ของตำรวจกว่า 20,000 นายในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศ หลังพบเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ในพื้นที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลกลางในกรุงเคียฟ
ทั้งนี้ นอกเหนือจากปัญหาเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของตำรวจแล้ว กระทรวงมหาดไทยยูเครนยังต้องเผชิญกับวิกฤตกำลังคนครั้งสำคัญหลังมีการปลดเจ้าหน้าที่อาวุโสออกจากตำแหน่งกว่า “90 เปอร์เซ็นต์” ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ โดยผู้ที่ถูกปลดส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกที่มีจุดยืนฝักใฝ่รัสเซีย