เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่มีการเผยแพร่ในวันจันทร์ (18 ส.ค.) ระบุ จำนวนผู้ที่เห็นด้วยกับการแยกตัวของแคว้นสกอตแลนด์ออกจากสหราชอาณาจักรมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 4 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ล่าสุดสัดส่วนของผู้ที่หนุนการแยกตัวได้เพิ่มเป็น 38 เปอร์เซ็นต์แล้ว
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจล่าสุดซึ่งจัดทำโดยสำนักวิจัย “ไอซีเอ็ม โพล” พบว่า แม้สัดส่วนของผู้ที่สนับสนุนการแยกตัวของแคว้นสกอตแลนด์ล่าสุดจะเพิ่มขึ้นเป็น 38 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังน้อยกว่า “จำนวนผู้ที่คัดค้านการแยกตัว” ซึ่งปรับเพิ่มอีก 2 เปอร์เซ็นต์ในเดือนที่ผ่านมา มาอยู่ที่ระดับ 47 เปอร์เซ็นต์
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดพบข้อมูลว่า สัดส่วนของชาวสกอตติชที่ยังคงไม่ตัดสินใจว่าจะสนับสนุนหรือคัดค้านการแยกตัวเป็นเอกราชได้ปรับลดลงถึง 7 เปอร์เซ็นต์เหลือเพียง 14 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ด้านแบลร์ เจนกินส์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงสนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชของแคว้นสกอตแลนด์ ออกมาระบุว่า ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดบ่งชี้ว่า จำนวนชาวสกอตติชที่ต้องการปลดแอกตัวเองจากความไม่เท่าเทียมภายใต้ร่มเงาของสหราชอาณาจักรกำลังเพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจมี “เรื่องที่ไม่คาดฝัน” เกิดขึ้นในการลงประชามติครั้งประวัติศาสตร์ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 18 กันยายนนี้
ทั้งนี้ ความพยายามในการแยกตัวเป็นเอกราชของสกอตแลนด์ กำลังกลายเป็น “ประเด็นร้อน” ในสหราชอาณาจักร โดยรัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ประกาศจะขัดขวางไม่ให้สกอตแลนด์ใช้เงินสกุล “ปอนด์สเตอร์ลิง” เป็นสกุลเงินประจำชาติ หลังการแยกตัว รวมถึงขู่จะขัดขวางไม่ให้สกอตแลนด์เข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) และองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ
โดยรัฐบาลอังกฤษยังคงเน้นย้ำในจุดยืนเดิมของตนที่ว่าการรวมตัวของสกอตแลนด์ในฐานะส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ที่ดำเนินมานานกว่า 307 ปีแล้วนั้น ควรดำเนินต่อไป