เอเอฟพี - คณะกรรมาธิการยุโรปวันนี้ (18 ส.ค.) ประกาศมาตรการพิเศษออกมามากมาย เพื่อช่วยเหลือเหล่าเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการที่รัสเซียสั่งห้ามนำเข้าผักและผลไม้จากโลกตะวันตก
คณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า บรรดาสินค้าที่ได้รับผลกระทบนั้นกำลังสุกงอมคาต้นในฤดูเก็บเกี่ยว ขณะที่แทบจะมองไม่เห็นความหวัง ที่จะหาตลาดอื่นๆ มารับซื้อแทนรัสเซียได้ทันท่วงที
คณะผู้แทนฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) ชุดนี้กล่าวว่า การออกมาตรการช่วยเหลือเหล่านี้จะช่วยทดแทนความเสียหายให้แก่เหล่าเกษตรกรผู้ปลูกมะเขือเทศ แครอท ผักกาดขาว พริกไทย ดอกกะหล่ำ แตงกวา ตลอดจนเห็ด แอปเปิล ลูกแพร์ เบอร์รี องุ่น และกีวี เป็นมูลค่าร่วม 125 ล้านยูโร (ราว 5.33 พันล้านบาท)
ดาเซียน ซิโอลอส กรรมาธิการฝ่ายเกษตรกรรมระบุในคำแถลงว่า “เกษตรกรผู้ปลูกผักผลไม้ประเภทที่ได้รับผลกระทบทุกคน ต่างมีสิทธิ์ที่จะได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการทางการตลาดเหล่านี้ ตามที่พวกเขาเห็นสมควร ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในองค์การผู้ผลิตหรือไม่”
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มอสโกได้ออกมาประกาศห้ามนำเข้าสินค้า เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ และยุโรปที่ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ทั้งนี้ มหาอำนาจชาติตะวันตกได้กล่าวหาว่า รัสเซียมีบทบาทในการทำให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกของยูเครนลุกฮือก่อเหตุรุนแรง
รัสเซียได้ประกาศมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าจำพวก เนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ ปลา และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมของสหภาพยุโรป, สหรัฐฯ, ออสเตรเลีย, แคนาดา และนอร์เวย์ โดยมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 1 ปี
มาตรการช่วยเหลือทางการตลาดของสหภาพยุโรป เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (18) ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน โดยหลักๆ แล้วจะใช้วิธีถอนผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบออกจากตลาดอียู เพื่อพยุงราคาสินค้าที่ตกต่ำลงเรื่อยมา นับตั้งแต่เกษตรกรกลุ่มนี้ไม่สามารถส่งออกสินค้าไปยังรัสเซีย
คณะกรรมาธิการยุโรปแถลงว่า จะยังเดินหน้าติดตามพัฒนาการของตลาดต่อไป “และจะไม่ลังเลที่จะให้ความช่วยเหลือภาคส่วนอื่นๆ ที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าไปรัสเซียเป็นหลัก ทั้งยังจะปรับมาตรการที่ถูกประกาศใช้แล้วให้มีความเหมาะสมมากขึ้น หากจำเป็นต้องทำ”