เอเจนซีส์ - พาฟโล คลิมกิน รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ออกโรงเรียกร้องในวันเสาร์ (16 ส.ค.) ให้สหภาพยุโรป (อียู) และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) หยิบยื่นความช่วยเหลือทางทหารให้แก่รัฐบาลยูเครน โดยอ้างกองทัพยูเครนจำเป็นต้องเสริมเขี้ยวเล็บไว้ต่อกรกับพวกนักรบแบ่งแยกดินแดน ที่ได้รับการสนับสนุนทั้งด้านกำลังคนและอาวุธจากรัสเซีย
คลิมกินเปิดเผยข้อเรียกร้องดังกล่าวผ่านทางสถานีวิทยุ “ดอยต์ชลันด์ฟุงก์” ของเยอรมนี โดยระบุว่าถึงเวลาแล้วที่อียูและนาโตจะต้องพิจารณาการให้ความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครน เพื่อรับมือกับการแทรกแซงของรัสเซียต่อพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนตลอดระยะเวลากว่า 4 เดือนที่ผ่านมา
ท่าทีล่าสุดของรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่มีรายงานว่า ผู้นำฝ่ายกบฏในยูเครนออกมาระบุว่า พวกตนได้รับยุทโธปกรณ์จากรัสเซีย และกำลังพลของตนยังได้รับการฝึกการต่อสู้ในรัสเซียอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ เปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดียูเครนเคยออกโรงเรียกร้องเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยระบุว่าถึงเวลาแล้วที่นาโตและอียูจะต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์และการดำเนินนโยบายต่อยูเครนเสียใหม่ เนื่องจากยุทธศาสตร์ที่โลกตะวันตกยึดถืออยู่ในเวลานี้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะช่วยปกป้องยูเครนจากภัยคุกคามของรัสเซียได้
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุว่า การสู้รบระหว่างกองทัพยูเครนกับฝ่ายแบ่งแยกดินแดนที่มีจุดยืนฝักใฝ่รัสเซีย ในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครนที่เริ่มปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 2,000 คน ขณะที่อีกกว่า 730,000 คนต้องอพยพหนีภัยการสู้รบเข้าไปในรัสเซีย
