รอยเตอร์ – ขบวนรถถังรัสเซียหลายสิบคันได้เคลื่อนเข้าประชิดพรมแดนยูเครนในวันนี้ (15 ส.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ชายแดนของยูเครนได้ข้ามพรมแดนรัสเซีย เข้าไปตรวจสอบคาราวานขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ขบวนใหญ่ที่ส่งตรงมาจากรัสเซีย
กรุงเคียฟกล่าวหาว่า รัสเซียอาจคิดแผนส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้ประชาชนที่กำลังเดือดร้อนทางภาคตะวันออกของยูเครนขึ้นมาเพื่อบังหน้าการส่งทหารรัสเซียเข้าแทรกแซงวิกฤตในประเทศนี้ ขณะที่สำทับว่า รัฐบาลเคียฟจะส่งกองกำลังเข้าไปตรวจสอบขบวนรถขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ ก่อนจะปล่อยให้ข้ามผ่านเพรมแดนเข้าไปได้
ทางฝ่ายมอสโกปฏิเสธว่าไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง แต่ก็อนุญาตให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ชายแดนยูเครนเข้าไปตรวจสอบคาราวานรถบรรทุกภายในพรมแดนรัสเซีย ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเมืองอิซวารีน บริเวณพรมแดนยูเครน
อันดรีย์ เดมเชนโก โฆษกกองกำลังพิทักษ์ชายแดนยูเครนกล่าวว่า “เจ้าหน้าที่พิทักษ์ชายแดนยูเครนจำนวนมากได้เดินทางไปถึงแล้ว” ขณะที่กองทัพยูเครนออกมาแถลงว่า ได้เริ่มตรวจสอบขบวนรถตั้งแต่เช้าวันนี้ (15) แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ขั้นตอนจะใช้เวลานานเท่าไร
วานนี้ (14) คาราวานรถบรรทุกราว 280 คันได้จอดในที่โล่ง ใกล้เมืองคาเมนสค์-ชาคทินสกี ห่างจากพรมแดนหน้าเมืองอิซวารีน ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียไปราว 20 กิโลเมตร
นอกเหนือจากขบวนรถบรรทุกแล้ว ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ยังพบเห็นยานลำเลียงพลหุ้มเกราะกว่าสิบคันในระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกลไปจากคาราวานขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ ขณะที่ผู้สื่อข่าวอีกคนเห็นยานลำเลียงพลหุ้มเกราะกว่า 20 คันเคลื่อนเข้าประชิดพรมแดนยูเครนเมื่อคืนวานนี้ (14)
เมื่อถามถึงรายงานข่าวเหล่านี้ โอเลกซีย์ ดมิตรัชคีย์สกี โฆษกกองทัพยูเครนชี้ว่า “ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ในดินแดนยูเครนเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน โดยเป็นการกระตุ้น (ความพร้อมของฝ่ายยูเครน)” และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็เช่นเดียวกัน มีรถถังบางคันวิ่งข้ามเข้าพรมแดน เรากำลังตรวจสอบปริมาณและตัวเลขของคนข้ามแดน
ยูเครนและองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวว่า พวกเขาหวั่นเกรงรัสเซียจะรุกรานภาคตะวันออกของยูเครน ภายหลังนาโตชี้ว่า มอสโกส่งกำลังทหารเข้าประชิดพรมแดนยูเครนกว่า 40,000 นาย ขณะที่รัสเซียแถลงชี้แจงว่า กำลังดำเนินการซ้อมรบ และไม่ได้วางแผนจะรุกรานยูเครน ทั้งยังปฏิเสธว่าไม่ได้ส่งอาวุธและเงินไปสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในภาคตะวันออกของยูเครน
สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย สืบเนื่องจากการที่แดนหมีขาวผนวกแคว้นไครเมีย ดินแดนซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน และจากการที่พวกเขาเชื่อว่า มอสโกคอยหนุนหลังกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครน จนทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับโลกตะวันตกถลำลึกลงสู่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็นเป็นต้นมา
*** สภาวะขาดแคลน ***
บรรดาหน่วยงานบรรเทาทุกข์ระบุว่า ที่จังหวัดลูกันสค์ และในจังหวัดโดเนสค์ ซึ่งเป็นจุดที่เกิดการปะทะระหว่างกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย กับกองกำลังของรัฐบาลยูเครน ประชาชนกำลังประสบสภาวะขาดแคลนน้ำ อาหาร และกระแสไฟฟ้า ภายหลังเกิดเหตุสู้รบติดต่อกัน 4 เดือน โดยองค์การสหประชาชาติระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะในภาคตะวันออกแล้วกว่า 2,000 คน
รัสเซียแถงว่า คาราวานขนสิ่งของบรรเทาทุกข์น้ำหนักรวม 2,000 ตัน ขบวนนี้ประกอบด้วย น้ำ อาหารเด็ก และความช่วยเหลืออื่นๆ ที่รัสเซียจัดหาให้ชาวยูเครนในภาคตะวันออก ขณะที่มอสโกแสดงท่าทีเมินเฉยเมื่อถูกเจ้าหน้าที่ของเคียฟ และชาติตะวันตกบางประเทศกล่าวหาว่า การส่งคาราวานช่วยเหลือครั้งนี้เป็นแผนตบตาการส่งกำลังทหารรัสเซียแทรกซึมเข้าสู่ยูเครน
เคียฟกล่าวว่า หากขบวนความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเคลื่อนเข้าสู่ยูเครนโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ รัฐบาลยูเครนจะพิจารณาว่า เป็นการบุกรุกอย่างผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ยูเครนและรัสเซียยังสามารถเจรจาต่อรองกันได้
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงว่า กำลังเปิดโต๊ะการเจรจาอย่างเข้มข้นกับรัฐบาลยูเครน และคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ไอซีอาร์ซี) ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า ทั้งสองชาติได้บรรลุข้อตกลงทางเทคนิค ว่าด้วยขั้นตอนการตรวจสอบคาราวานขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ ภายใต้การควบคุมดูแลขององค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือแห่งยุโรป (โอเอสซีอี) และไอซีอาร์ซี