แฮกเกอร์มือดีเจาะ “ทวิตเตอร์” นายกฯ รัสเซีย โพสต์ข้อความ “ลาออก”

เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีดมิตรี เมดเวเดฟ แห่งรัสเซีย ถูกแฮกเกอร์โจมตีบัญชีทวิตเตอร์ และเข้าไปโพสต์ข้อความ “ลาออก” ในนามของเขา รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน วันนี้ (14 ส.ค.)

ข้อความภาษารัสเซียที่ปรากฏอยู่บนทวิตเตอร์ของเมดเวเดฟ ระบุว่า “ผมขอลาออก ผมอับอายเหลือเกินกับการกระทำของรัฐบาลชุดนี้ โปรดอภัยให้ผมด้วย”

“ผมอยากพูดคำนี้มานานมากแล้ว : โววา สิ่งที่คุณทำมันผิด!” อีกข้อความหนึ่งถูกเขียนไว้ โดยใช้คำเรียกสั้นๆ สำหรับชายที่ชื่อวลาดิมีร์

เมดเวเดฟ เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในช่วงที่ ปูติน ถอยฉากลงไปเป็นนายกฯ เนื่องจากรัฐธรรมนูญรัสเซียห้ามประธานาธิบดีครองเก้าอี้ติดต่อกันเกิน 2 สมัย แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังถูกมองมาโดยตลอดว่าเป็นเพียงหุ่นเชิดของปูตินเท่านั้น

โฆษกมอสโกแถลงผ่านสำนักข่าวอาร์ไอเอ โนโวสติ ซึ่งเป็นสื่อของรัฐว่า “ทวิตเตอร์ของนายกรัฐมนตรี เมดเวเดฟ ถูกแฮก ข้อความที่โพสต์ขึ้นไปจึงไม่ใช่สารจากนายกรัฐมนตรี และขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งแก้ไขอยู่”

อย่างไรก็ดี ปรากฏว่ายังมีข้อความจากแฮกเกอร์ถูกโพสต์ขึ้นตลอดเวลา ทำให้ทวิตเตอร์ของเมดเวเดฟ มียอดผู้เข้าชมพุ่งพรวด และมีคนกดติดตามเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2.5 ล้านคนในเวลาอันรวดเร็ว

ข้อความที่แฮกเกอร์ทวีตส่วนใหญ่มีเนื้อหาติเตียนนโยบายของรัสเซียภายใต้การนำของปูติน

“ไครเมียไม่ใช่ดินแดนของเรา กรุณารีทวีตต่อๆ กันไปด้วย” หนึ่งในข้อความระบุ

ปูติน เมดเวเดฟ และบรรดา ส.ส.ในทำเนียบเครมลินจะมีการประชุมร่วมกันในวันนี้ (14) เพื่อหารือปัญหาไครเมีย หลังจากที่รัสเซียช่วงชิงคาบสมุทรในทะเลดำแห่งนี้มาจากยูเครนได้สำเร็จเมื่อเดือนมีนาคม

พลเมืองแดนหมีขาวบางคนอดหวั่นเกรงไม่ได้ว่ารัฐบาลอาจงดนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรที่ตะวันตกมีต่อรัสเซีย ซึ่งอาจทำให้เกิดปรากฏการณ์เข้าคิวซื้ออาหารยาวเหยียดเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อช่วงทศวรรษ 1980

“เราอาจกลับไปเป็นเหมือนยุค 1980s ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้า หากเพื่อนร่วมงานของผมในเครมลินมีเป้าหมายเช่นนั้นจริง พวกเขาคงจะทำสำเร็จในอีกไม่ช้า” ข้อความหนึ่งที่ถูกโพสต์ในนามเมดเวเดฟระบุ

แฮกเกอร์มือดียังวิจารณ์กฎหมายควบคุมอินเทอร์เน็ตที่ เมดเวเดฟ เป็นผู้ลงนามประกาศใช้ ซึ่งกำหนดให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ในที่สาธารณะต้องลงทะเบียน และกรอกข้อมูลพาสปอร์ตด้วย

“แม้เราจะมีกฎหมายใหม่ แต่พวกนักเลงคีย์บอร์ดก็ไม่เห็นสนใจที่จะใช้พาสปอร์ตเข้าอินเทอร์เน็ตกันเลยสักนิด”