คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ได้อนุมัติร่างกฎหมายอนุญาตให้สามารถไต่สวนเยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปเทียบเท่าผู้ใหญ่ในคดีข่มขืนหรือฆาตกรรม โดยสามารถที่จะนำตัวเด็กขึ้นไต่สวนในศาลปกติได้ และเยาวชนเหล่านี้มีสิทธิ์ถูกจำคุกนานขึ้น หรือถึงขั้นถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิต จากเหุตหนึ่งในผู้ต้องหาคดีข่มขืนนักศึกษาสาวอินเดียวัย 23 ปีบนรถโดยสารนิวเดลีปี 2012 ที่ทารุณจนเหยื่อเจ็บสาหัสและถึงขั้นเสียชีวิตในภายหลัง มีอายุ 17 ปีรวมอยู่ในนั้น
สื่ออังกฤษรายงานในวันพฤหัสบดี (7) ว่า การออกร่างกฎหมายในคดีข่มขืนและฆ่านี้เกิดขึ้นหลังจากการเรียกร้องไปทั่วประเทศสืบเนื่องเหตุสลดนักศึกษาสาวอินเดียวัย 23 ปีถูกรุมโทรมบนรถโดยสารนิวเดลีในปี 2012 ที่ภายหลังเหยื่อเสียชีวิต และหนึ่งในผู้ต้องหาก่อเหตุเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี
ทั้งนี้ ศาลเยาชนอินเดียสามารถจำคุกผู้ต้องหาเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีได้สูงสุดแค่ 3ปี แต่หลังจากนี้ไป หากร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาอินเดีย จะทำให้ผู้ต้องหาเยาวชนที่กระทำผิดในคดีข่มขืนและฆาตกรรมต้องสู่ศาลปกติที่ไต่สวนผู้ใหญ่ และจะทำให้เยาวชนเหล่านี้ได้รับการลงโทษในระยะเวลาที่ยาวขึ้น ตลอดจนขยายบทลงโทษให้ถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
คดีข่มขืนนักศึกษาสาวบนรถเมล์ในปี 2012 นั้นสร้างความโกรธแค้นไปทั่วโลก และต่างกดดันให้รัฐบาลอินเดียเร่งปรับปรุงกฎหมายข่มขืนให้มีความเข้มงวดและบทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้น
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมนกา คานธี (Maneka Gandhi) รัฐมนตรีพัฒนาสตรีและเด็กอินเดียได้แถลงกับรัฐสภาอินเดียว่า กฎหมายฉบับใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อจูงใจให้เยาวชนแดนภารตะไม่ให้กระทำผิด และปกป้องสิทธิของเหยื่อ
อย่างไรก็ตาม National Commission for Protection of Child Rights กลุ่มพิทักษ์สิทธิเด็กและเยาวชนของอินเดียได้ออกมาติเตียนร่างกฎหมายใหม่ฉบับนี้ว่า “การก้าวถ้อยหลังและละเมิดหลักการปฎิรูปยุติธรรมและกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ หรือ Restorative Justice (กระบวนการยุติธรรมที่มุ่งฟื้นฟูความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่สูญเสียไปเพราะอาชญากรรมหรือการกระทำความผิด โดยให้ผู้เสียหายได้บอกเล่าถึงความรู้สึก และความเสียหายที่ได้รับ และได้รับการชดใช้/เยียวยาความเลียหายที่เกิดขึ้น ทั้งความเสียหายทางกายภาย จิตใจ อารมณ์ ฯลฯ ให้ผู้กระทำผิดได้แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของตน โดยการชดใช้/เยียวยา ความเสียหายนั้นๆ ให้แก่ผู้เสียหาย)
และพร้อมกันนี้แอมเนสตีอินเดียขอร้องให้รัฐบาลอินเดียไม่ยอมรับร่างกฏหมายฉบับนี้ “เด็กและเยาวชนบางครั้งมีความสามารถในการละเมิดกฏหมายเหมือนเฉกเช่นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ และความโศกเศร้าและเจ็บปวดของญาติผู้เคราะห์ร้ายนั้นเกิดขึ้นไม่ว่าผู้ต้องหาจะเป็นเยาวชนหรือผู้ใหญ่ที่ได้กระทำลงไป แต่ความผิดของเด็กหรือเยาวชนนั้นที่ถึงแม้ว่า พวกเขาจะลงมือกระทำผิดแต่ยังแตกต่างจากผู้ใหญ่ ด้วยเหตุที่ว่าผู้เยาว์เหล่านี้ยังไม่พัฒนาอย่างสมบูรณ์ด้านร่างกายและจิตใจ ดังนั้นการลงโทษเยาวชนจึงเห็นควรตระหนักถึงข้อนี้ และพร้อมในการตระหนักถึงศักยภาพของเด็กและเยาวชนที่สามารถเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง บนพื้นฐานความเข้าใจในจิตวิทยาวัยรุ่น ” Shashikumar Velath รองผู้บริหารระดับสูงของแอมเนสตีอินเดียแถลง
