“อาเบะ” เผยความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-ละตินอเมริกาก้าวสู่ “มิติใหม่” เร่งขยายความร่วมมือ

รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะแห่งญี่ปุ่น เผยในวันเสาร์ (2 ส.ค.) โดยยอมรับแดนปลาดิบ จำเป็นต้องให้ความสำคัญมากขึ้นต่อภูมิภาคละตินอเมริกาเพื่อสร้างความได้เปรียบในการไหลเวียนของกระแสการค้าโลกที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมย้ำสายสัมพันธ์ญี่ปุ่น-ลาตินอเมริกากำลังก้าวเข้าสู่ “มิติใหม่”

อาเบะเผยท่าทีดังกล่าวต่อผู้สื่อข่าวในนครเซาเปาโลของบราซิล ซึ่งเขาได้พบกับบรรดาผู้นำภาคธุรกิจแดนแซมบ้า พร้อมย้ำว่าการเดินทางเยือน 5 ประเทศแถบละตินอเมริกาของเขาได้ช่วยเสริมสร้างรากฐาน และเปิดมิติใหม่สำหรับความร่วมมือในด้านต่างๆ รวมถึงการค้าขายระหว่างญี่ปุ่นและลาตินอเมริกาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังเผยว่า การสิ้นสุดของภาวะเงินฝืดในญี่ปุ่น ที่ดำเนินมาต่อเนื่องยาวนานกว่า 15 ปีจะช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆสำหรับการขยายการค้าและการลงทุนกับบราซิล เม็กซิโก ชิลี และประเทศลาตินอเมริกาอื่นๆที่มีการเติบโตของจีดีพีรวมกันเกือบ 6 ล้านล้านดอลลาร์ และยังอุดมไปด้วยทรัพยากรล้ำค่านานาชนิด รวมถึงเป็นแหล่งอาหารและพลังงาน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (29 ก.ค.) อาเบะเพิ่งเห็นชอบร่วมกับประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส ผู้นำของโคลอมเบียต่อการเร่งเดินหน้าหารือการทำข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสองประเทศ โดยผู้นำทั้งสองประเทศเห็นพ้องให้มีการเร่งเจรจาในรายละเอียดเพื่อปูทางไปสู่การทำข้อตกลงการค้าเสรีแบบทวิภาคีต่อกัน หลังจากที่ญี่ปุ่นและโคลอมเบียเริ่มหารือกันในเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือน ธันวาคมปี 2012 แต่ยังคงไม่สามารถผลักดันให้เกิดความคืบหน้าอย่างสำคัญได้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะแห่งญี่ปุ่น อยู่ระหว่างการเดินสายเยือนประเทศแถบละตินอเมริกา รวมถึงหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียนเพื่อกระชับความสัมพันธ์ เริ่มจากการเดินทางเยือนเม็กซิโก, ทรินิแดด แอนด์ โทเบโก และโคลอมเบีย ก่อนปิดท้ายด้วยการเยือนชิลี และบราซิล และเดินทางกลับญี่ปุ่นในวันที่ 4 สิงหาคม