เอเอฟพี - วันนี้ (29 ก.ค.) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น “ฮอนด้า” ได้เผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุด (เมษายน - มิถุนายน 2014) ว่ามีกำไรสุทธิ 146.5 พันล้านเยน เพิ่มขึ้น 19.6 เปอร์เซ็นต์ จากอานิสงส์ของค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลงบวกกับยอดขายรถยนต์ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าผลประกอบการตลอดทั้งปีน่าจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ฮอนด้า ระบุว่า มีกำไร 146.5 พันล้านเยน (ประมาณ 45,790 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่เคยทำไว้ 122.5 พันล้านเยน (ประมาณ 38,290 ล้านบาท) ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 5.4 เปอร์เซ็นต์ โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 2.99 ล้านล้านเยน (ประมาณ 9.3 แสนล้านบาท)
ฮอนด้าได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ผลกำไรตลอดทั้งปีงบประมาณนี้ (เมษายน 2014 - มีนาคม 2015) ว่า น่าจะอยู่ที่ประมาณ 600 พันล้านเยน จากเดิมที่เคยคาดไว้ 595 พันล้านเยน ส่วนยอดขายก็คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 12.8 ล้านล้านเยน จากเดิมที่เคยคาดไว้ 12.75 ล้านล้านเยน
คำแถลงของฮอนด้า ระบุว่า กำไรที่เพิ่มขึ้นเกิดขึ้นจากการขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้มากขึ้น รวมถึงผลพวงจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน โดยในส่วนของยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลจากการที่บริษัทออกรถรุ่นใหม่ รวมถึงมีการปรับโฉมรถรุ่นเดิมๆ ในญี่ปุ่นและประเทศแถบเอเชีย อีกทั้งยังได้รับผลในเชิงบวก จากความพยายามที่จะลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่นได้รับผลประโยชน์จากบรรดานโยบายที่มีการใช้เงินงบประมาณจำนวนมากของ ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น รวมถึงยังมีการผ่อนคลายมาตรการทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น ที่ช่วยทำให้ค่าเงินเยนอ่อนตัวลง
การอ่อนตัวลงของค่าเงินเยนช่วยทำให้ผลประกอบการของค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นรายนี้เพิ่มขึ้น โดยทำให้สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้มากขึ้น รวมถึงมีกำไรจากยอดขายนอกประเทศเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยาสุโอะ อิมานากะ นักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ราคุเตน ในกรุงโตเกียว ก็ออกมาเตือนว่า ผลกระทบเชิงบวกจากการอ่อนค่าของเงินเยนกำลังลดลง จึงไม่ควรคาดหวังมากนักในปีงบประมาณปัจจุบัน
สำหรับยอดขายรถจักรยานยนต์ทั่วโลกของฮอนด้า อยู่ที่ตัวเลข 4.13 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 2.0 เปอร์เซ็นต์ อันเนื่องมาจากกระแสความต้องการที่มากขึ้นในประเทศแถบเอเชีย ส่วนทางด้านธุรกิจรถยนต์ ฮอนด้าขายได้เพิ่มขึ้น 6.2 เปอร์เซ็นต์ โดยมียอดขายที่ดีในเอเชีย แต่ในอเมริกาเหนือนั้นไม่สดใสเท่าไหร่
ในประเทศญี่ปุ่น ฮอนด้ามียอดขายเพิ่มขึ้น 1.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกำไรที่ได้เกือบจะไม่ต่างจากไตรมาสแรก ที่เคยทำไว้ 62.1 พันล้านเยน (ประมาณ 19,410 ล้านบาท) โดยสามารถเอาตัวรอดมาจากผลกระทบในเชิงลบช่วงเดือนเมษายน ที่ภาษีการขาย (คล้ายกับภาษีมูลค่าเพิ่มของไทย) มีการปรับตัวสูงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ส่วนที่อเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของฮอนด้า ยอดขายยังเพิ่มขึ้นพอประมาณ แต่ผลกำไรกลับได้แค่ 67.5 พันล้านเยน ลดลง 6.0 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
ในบรรดาค่ายรถยนต์ของญี่ปุ่นระดับ “บิ๊กทรี” ฮอนด้าถือเป็นรายที่สองที่ออกมารายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทาง “นิสสัน” ได้รายงานผลประกอบการไปแล้วเมื่อวันจันทร์ (28 ก.ค.) ส่วนทางโตโยต้าจะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์หน้า
สำหรับผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของนิสสัน (เมษายน - มิถุนายน) ที่มีรายงานออกมาเมื่อวันจันทร์ (28 ก.ค.) มีกำไรสูงถึง 112.13 พันล้านเยน (ประมาณ 35,040 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 37 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่เคยทำไว้ 82 พันล้านเยน (ประมาณ 25,630 ล้านบาท) ขณะที่ยอดขายอยู่ที่ตัวเลข 2.47 ล้านล้านเยน (ประมาณ 7.7 แสนล้านบาท) จากที่เคยทำได้ 2.23 ล้านล้านเยน (ประมาณ 7 แสนล้านบาท) ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นิสสันคาดว่าผลประกอบการในปีงบประมาณนี้ ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2015 จะไม่เปลี่ยนไปจากที่เคยคาดไว้ครั้งก่อน ที่ตัวเลขผลกำไร 405 พันล้านเยน (ประมาณ 1.26 แสนล้านบาท) กับตัวเลขยอดขาย 10.79 ล้านล้านเยน (ประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท)
