เอเอฟพี - สถานการณ์ไฟที่โหมไหม้คลังเก็บน้ำมันรอบนอกกรุงตริโปลี ควบคุมไม่อยู่แล้วในวันจันทร์ (28 ก.ค.) และลุกลามได้ถึงคลังเชื้อเพลิงอีกแห่ง ก่อความกังวลว่าอาจลุกลามคลังก๊าซธรรมชาติที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ซึ่งจะสร้างความเสียหายร้ายแรงเป็๋นบริเวณกว้าง ขณะที่การสู้รบก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นอุปสรรคขัดขวางความพยายามควบคุมเปลวไฟ
รัฐบาลเปิดเผยว่าไฟที่โหมกระพือขึ้นตั้งแต่ช่วงค่ำวันอาทิตย์ (27) ได้ลุกลามไปยังบริเวณคลังเชื้อเพลิงแห่งที่ 2 แล้ว พร้อมเรียกพัฒนาการล่าสุดนี้ว่าอันตรายใหญ่หลวง “สถานการณ์อันตรายอย่างยิ่ง หลังจากไฟลุกไหม้คลังปิโตรเลียมอีกแห่ง” ถ้อยแถลงระบุ พร้อมเตือนถึงหายนะที่จะมาพร้อมกับผลลัพธ์อันเลวร้ายที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
ในคืนวันอาทิตย์ (27) นั่นเอง บริษัทน้ำมัน “เนชันแนล ออยล์ คอร์ป” (เอ็นโอซี) ของรัฐบาลลิเบียได้ออกมาประกาศเตือนภัยพิบัติทางสิ่งแวดล้อมและทางมนุษยธรรมครั้งใหญ่ในเขตเมืองหลวง หลังจากคลังเก็บน้ำมันสำหรับสนามบินตริโปลี ที่มีน้ำมันบรรจุอยู่ 6 ล้านลิตร ได้ถูกโจมตีด้วยจรวดจนเกิดไฟลุกไหม้
คลังน้ำมันแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองราว 10 กิโลเมตรและอยู่บนถนนที่มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติตริโปลี จุดที่มีการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกลุ่มนักรบคู่อรินับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา
เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงพยายามเข้าไปดับไฟที่ลุกไหม้ แต่เหตุปะทะกันก็บีบให้พวกเขาต้องล่าถอยออกมา โดยโฆษกบริษัทน้ำมันแห่งชาติบอกว่า “ตอนนี้หน่วยดับเพลิงต้องออกจากพื้นที่ สถานการณ์อยู่นอกเหนือการควบคุมแล้ว” ทำให้ทางรัฐบาลต้องเรียกร้องพลเรือนที่พักอาศัยอยู่ในรัศมี 3 กิโลเมตรรอบคลังเก็บน้ำมันให้ออกจากบ้านเรือนโดยด่วน
ในถ้อยแถลง รัฐบาลยังได้วิงวอนอีกรอบให้พวกนักรบที่กำลังต่อสู้กันหยุดยิงในทันที แต่ช่างภาพเอเอฟพีในพื้นที่บอกว่ายังพบเห็นจรวดปลิวว่อนเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว
พวกเจ้าหน้าที่หวั่นเกรงกันว่าเหตุไฟไหม้อาจลุกลามไปถึงคลังเก็บก๊าซธรรมชาติปริมาณ 90 ล้านลิตร ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน “มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระเบิดขนาดมหึมา ซึ่งอาจสร้างความเสียหายรุนแรงในรัศมี 3-5 กม.” โฆษกบริษัทน้ำมัน “เนชันแนล ออยล์ คอร์ป” (เอ็นโอซี) กล่าว
การปะทะกันที่กรุงตริโปลีซึ่งเป็นการสู้รบที่รุนแรงที่สุดนับจากการโค่นล้มจอมเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อปี 2011 ได้เริ่มขึ้นในวันที่ 13 กรกฎาคม หลังจากการเข้าโจมตีเสนามบินโดยกองกำลังพันธมิตรที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มต่างๆ หลายกลุ่ม แต่หลักๆ คือพวกอิสลามิสต์ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากพวกนักรบจากเมืองมิสราตา เมืองใหญ่อันดับ 3 ของลิเบีย
กลุ่มที่เข้าโจมตีกำลังพยายามขับไล่อดีตกองกำลังฝ่ายกบฏจาก “ซินตัน” เมืองบนภูเขาที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงตริโปลี โดยพวก “ซินตัน” เข้าควบคุมสนามบินเอาไว้ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
กระทรวงสาธารณสุขของลิเบีย ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (27) ว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบที่กรุงตริโปลีแห่งนี้ไปแล้ว 97 ราย ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมีมากกว่า 400 คน
ท่ามกลางภาวะไร้ขื่อแปในลิเบียซึ่งทำท่าจะแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯแล้ว จึงยังมีประเทศอื่นๆ จำนวนมาก เป็นต้นว่า อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอียิปต์ ต่างออกคำเตือนให้พลเมืองของตนอย่าเดินทางมายังลิเบีย
หลายประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม สเปน ฟิลิปปินส์ และ ตุรกี ได้แนะนำให้พลเมืองของพวกตนอพยพออกไปจากลิเบีย โดยที่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อิตาลี กับ มอลตา ได้ส่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินทหาร เพื่อลำเลียงบุคคลสัญชาติประเทศตนเดินทางออกจากประเทศนี้