เอพี – วานนี้ (25) สหภาพยุโรป (อียู) ได้ขยายกรอบมาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวพันกับเรื่องยูเครน โดยพุ่งเป้าที่บรรดาเจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงของรัสเซียและผู้นำกลุ่มกบฏนิยมรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน เอกสารของทางการเผย
ในจำนวนบุคคลที่อยู่ภายใต้มาตรการอายัดทรัพย์สินและห้ามเดินทางทั่วอียูรายใหม่ 15 คน มี โอเล็กซานเดอร์ บอร์ตนิคอฟ ผู้อำนวยการสำนักกิจการความมั่นคงกลางรัสเซีย (เอฟเอสบี) และ นายเซอร์เก เบเซดา หัวหน้าสำนักงานควบคุมกิจการข่าวกรองและปฏิบัติการระหว่างประเทศของเอฟเอสบี และสมาชิก 4 คนของสภาความมั่นคงรัสเซียรวมอยู่ด้วย
มาตรการชุดใหม่นี้ที่ออกแบบมาเพื่อกดดันมอสโกและบรรดาพันธมิตรของพวกเขาในยูเครน ได้มีการประกาศออกมาในวารสารทางการของอียู และมีผลบังคับใช้ในทันที และยังได้เพิ่มรายชื่อกลุ่มธุรกิจหรือองค์กร 18 แห่ง รวมถึงบรรดากลุ่มกบฏในภาคตะวันตกของยูเครนลงในรายการคว่ำบาตรทางการค้าด้วย
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้ทำให้จำนวนของผู้ที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร ที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมไครเมียของรัสเซียและการกบฏในภาคตะวันออกของยูเครนเพิ่มเป็น 87 ราย โดยขณะนี้ ธุรกิจพลังงานที่มีฐานในไครเมียถูกอายัดทรัพย์สินในอียูไปแล้ว 2 เจ้า
ก่อนหน้านั้นในเดียวกัน คณะเอกอัครราชทูตอียูได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นที่จะคว่ำบาตรหมีขาวเพิ่มเติม โดยพุ่งเป้าที่การเข้าถึงตลาดทุนของยุโรปและการค้าในภาคความมั่นคงของรัสเซีย ตลอดจนเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหวและสินค้าที่ใช้ได้ 2 ทาง
มายา โคซิออนชิก (Maja Kocijancic) โฆษกหญิงของอียู กล่าวว่า ได้มีการถ่ายทอดแนวทางดังกล่าวให้บรรดาเจ้าหน้าที่อียูได้นำไปปรับใช้เป็นข้อบังคับแล้ว โดยคณะเอกอัครราชทูตได้กำหนดการประชุมอีกครั้งในวันอังคาร (29) เพื่อพิจารณาผลลัพธ์ เธอระบุว่า รัฐสมาชิกอียูจะต้องทำการตัดสินว่ามาตรการไหนจำเป็นที่ต้องได้รับการอนุมัติจากการประชุมสุดยอดของชาติสมาชิก 28 ชาติของอียูเพื่อนำไปบังคับใช้ให้เกิดผลต่อไป