เอเจนซีส์ - “ฮุน เซน-สม รังสี” ชื่นมื่น ร่วมประกาศปฏิรูปคณะกรรมการการเลือกตั้ง แลกกับฝ่ายค้านยอมยุติการคว่ำบาตรรัฐสภายาวนานหนึ่งปีอันมีสาเหตุมาจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปีที่แล้วที่ถูกครหาว่าโกงสนั่น อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ยังหวั่นใจว่า สถานการณ์การเมืองในกัมพูชาอาจสงบลงชั่วคราวเท่านั้น
พรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNPR) แถลงในวันอังคาร (22 ก.ค.) ว่า ในการเจรจากับฝ่ายรัฐบาล สามารถผ่าทางตันวิกฤตการเมืองและสมาชิกพรรคของตนที่ได้รับเลือกตั้งจะเข้าทำหน้าที่ในรัฐสภาแห่งชาติ หลังจากได้รับคำมั่นจากพรรครัฐบาลในเรื่องการปฏิรูปการเลือกตั้ง
CNPR ปฏิเสธไม่ยอมร่วมสังฆกรรมในรัฐสภาชุดใหม่ซึ่งมาจากการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคม 2013 ซึ่งทางพรรคกล่าวหาว่า พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ปล้นชัยชนะด้วยการโกงการเลือกตั้งโจ๋งครึ่ม ทั้งนี้ในระยะเวลาราว 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้เปิดการเจรจากันอยู่หลายครั้ง เพื่อหาทางออกให้แก่ภาวะชะงักงันทางการเมืองนี้ แต่ประสบความล้มเหลวมาตลอด
ทว่า ในวันอังคาร สม รังสี ผู้นำพรรค CNPR ประกาศภายหลังหารือกับฮุน เซน นาน 5 ชั่วโมงว่า ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติวิกฤตการณ์ทางการเมือง ซึ่งเป็นทางเลือกเดียวที่เหมาะสมที่สุดในการคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียด
ทางด้านฮุน เซน ที่ผูกขาดอำนาจในกัมพูชามาเกือบ 3 ทศวรรษ ก็แถลงยกย่องการตกลงกันได้คราวนี้ว่าเป็น “ความสำเร็จ”
การยอมผ่อนปรนของฮุน เซน ในเรื่องปฏิรูปคณะกรรมการการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักตลอดช่วงเวลาการครองอำนาจของเขา ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์มองว่า การที่ สม รังสี ยอมกลับสู่โต๊ะเจรจาอาจเนื่องมาจากการที่รัฐบาลจับกุมนักการเมือง CNPR ไป 8 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในข้อหาก่อจลาจล เนื่องจากมีการปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับกองกำลังความมั่นคง และทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายสิบคน
อย่างไรก็ดี นักการเมืองทั้ง 8 คนได้รับการประกันตัว หลังการเจรจาระหว่างฮุน เซน กับ สม รังสี ล่าสุดนี้ไม่นานนัก
ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงล่าสุดทั้งสองพรรคจะร่วมกันปฏิรูปคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องสำคัญของฝ่ายค้านที่กล่าวหาว่า องค์การแห่งนี้สนับสนุนการเลือกตั้งที่ฉ้อฉล เนื่องจากปฏิเสธไม่ยอมตั้งคณะกรรมการที่เป็นอิสระขึ้นมาสอบสวนข้อกล่าวหาพรรครัฐบาลทุจริตการเลือกตั้ง
สำหรับคณะกรรมการชุดใหม่จะประกอบด้วยสมาชิก 9 คน โดยมาจากสองพรรคใหญ่ทั้ง 2 พรรคละ 4 คน และทั้ง 8 คนร่วมกันเลือกสมาชิกอีก 1 คนที่เหลือ
เจ้าหน้าที่ CPP ชี้ว่า กระบวนการดังกล่าวจะปูทางไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะไม่เกิดขึ้นก่อนเดือนกุมภาพันธ์ 2018 แม้ก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดก็ตาม
ทั้งนี้ ฮุน เซน ในวัย 61 ปี ถูกวิจารณ์ว่าเพิกเฉยต่อสิทธิมนุษยชนและปราบปรามฝ่ายต่อต้านอย่างรุนแรง เช่น การสลายการชุมนุมของคนงานทอผ้าเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่มีผู้เสียชีวิตถึง 4 คน
ในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วนั้น ผลการนับคะแนนของทางการระบุว่า CPP ได้ที่นั่งในสภา 68 ที่นั่ง ส่วน CNPR ได้ 55 ที่นั่ง กระนั้น ถือว่าพรรครัฐบาลได้คะแนนเลือกตั้งต่ำที่สุดนับจากปี 1998 โดยสูญเสียที่นั่งในสภาถึง 22 ที่นั่ง บ่งชี้ว่า คะแนนนิยมที่มีต่อฮุน เซนเริ่มเสื่อมถอยลง
นับจากนั้น ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านได้จัดการชุมนุมใหญ่หลายครั้งเพื่อต่อต้านรัฐบาล และ สม รังสี อดีตนายธนาคารที่จบการศึกษาจากฝรั่งเศส ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง พร้อมประกาศต่อสู้เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงล่าสุดจะทำให้สมาชิก CNPR ที่ได้รับเลือกตั้ง เข้าสาบานตนรับตำแหน่งเร็วๆ นี้
ยิม โสวันน์ โฆษก CNPR ประกาศว่า นับแต่นี้ต่อไปจะมีการถ่วงดุลอำนาจระหว่างพรรครัฐบาล กับพรรคอื่นๆ ในสภา
สำหรับเงื่อนไขอื่นๆ ของข้อตกลงคราวใหม่ล่าสุดนี้ ยังมีดังเช่น CNPR จะได้รับตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรอันดับ 1 ขณะที่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ เป็นของ CPP นอกจากนี้ ทั้งสองพรรคยังแบ่งสรรตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการรัฐสภาพรรคละ 5 ชุดจากทั้งหมด 10 ชุด
กระนั้น นักวิเคราะห์การเมืองกัมพูชายังไม่วางใจในข้อตกลงนี้ เนื่องจากมองว่า เป็นข้อตกลงที่คลุมเครือ และคาดว่า สถานการณ์จะผ่อนคลายชั่วคราวเท่านั้น เพราะแม้ขณะนี้ CPP ได้ในสิ่งที่ต้องการคือ ฝ่ายค้านกลับเข้าสภา แต่ต่อไปในอนาคตอาจมีข้อพิพาทอื่นๆ เกิดขึ้นอีก