เอพี - หญิงชาวออสซีคนหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สูญเสียพี่ชายไปกับเหตุเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส หายสาบสูญ วันนี้ (18) ต้องเผชิญโชคชะตาพลิกผันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพบว่าลูกเลี้ยงของเธอคือหนึ่งในผู้โดยสารบนโบอิ้งมาเลย์ ที่ตกลงมาทางภาคตะวันออกของยูเครน วานนี้ (17)
ร็อด และ แมรี เบอร์โรวส์ พี่ชายและพี่สะใภ้ของ เคย์ลีน แมนน์ อันตรธานหายไปกับเที่ยวบิน MH370 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มีนาคม และวันนี้ (18) ก็เป็นอีกครั้งที่ แมนน์ พบว่า มารี ริซก์ ลูกเลี้ยงของเธอเสียชีวิตพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรืออีก 297 ชีวิต บนเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส โดยบรรดาเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอเมริกันต่างปักใจเชื่อว่า อากาศยานโดยสารลำนี้น่าจะถูกจรวดจากพื้นสู่อากาศสอยร่วง
เกรก เบอร์โรวส์ น้องชายของแมนน์ กล่าวว่า “เหตุการณ์นี้ทำให้เราหวนคิดถึงทุกคน และทุกสิ่งทุกอย่าง ชวนให้เรารู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอีกครั้ง”
เบอร์โรวส์ กล่าวว่า ครอบครัวของเขากำลังพยายามหาเหตุผลว่า ทำไมพวกเขาจึงต้องประสบเคราะห์กรรมเลวร้าย ที่เกิดขึ้นกับสายการบินเดียวกันถึง 2 ครั้ง
เขาพูดถึงพี่สาวตัวเองด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เธอเพิ่งเสียพี่ชาย และตอนนี้ก็ต้องเสียลูกเลี้ยงไปอีกคน”
ฟิล ลิธโก ประธานสโมสรฟุตบอลซันเบอรี ซึ่งใกล้ชิดสนิทสนมกับครอบครัวนี้ เล่าว่า ริซก์ และ อัลเบิร์ต สามีของเธออยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้านในเมลเบิร์น ออสเตรเลีย หลังไปฉลองหยุดยาว 4 สัปดาห์ในยุโรป โดยอัลเบิร์ต ซึ่งเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ คือหนึ่งในคณะกรรมการของสโมสร ขณะที่มารีเป็นอาสาสมัครในโรงครัว และ เจมส์ ลูกชายของทั้งสองก็เล่นฟุตบอลที่สโมสรนี้
ลิธโก เล่าว่า “พวกเขาน่ารักมาก คุณจะไม่ได้ยินใครพูดถึงพวกเขาในทางเสียหายหรอก พวกเขาเอื้อเฟื้อกับชุมชนมาก เป็นคนที่มีจิตสาธารณะจริงๆ และทำให้คนที่อยู่รอบข้างสนุกสนานมากๆ”
ลิธโก ระบุว่า สมาชิกของสโมสรนัดกันสวมปลอกแขนไว้ทุกข์ และยืนสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อไว้อาลัยให้แก่ครอบครัวริซก์ ก่อนเริ่มการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ (19)
ถึงแม้จะต้องเผชิญโศกนาฏกรรมถึง 2 ครั้งซ้อน แต่เบอร์โรวส์ก็ยังบอกว่า พวกเขาไม่ได้ถือโทษโกรธสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส แต่อย่างใด
เขากล่าวว่า “ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าเครื่องบินของพวกเขาจะถูกยิงตก เป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมของพวกเขา”