รอยเตอร์/เทเลกราฟ - เหล่านักวิจัยรุดเข้าตรวจสอบหลุมลึกลับขนาดยักษ์แห่งหนึ่ง ซึ่งโผล่ขึ้นมาในไซบีเรีย ดินแดนห่างไกลทางเหนือของรัสเซีย สื่อมวลชนแห่งรัฐรายงาน ขณะที่มันก็โหมกระพือข้อสันนิษฐานต่างๆ นานาบนโลกออนไลน์ ไล่ตั้งแต่เป็นจุดลงจอดของยูเอฟโอไปจนถึงเกิดจากอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชนโลก
ตามรายงานจากเว็บไซต์/เดอะไซบีเรียนไทม์สเมื่อวันอังคาร (15) ระบุว่าหลุมขนาดมหึมานี้ถูกพบในแถบแหลมยามาล ทางตอนเหนือของคาบสมุทรไซบีเรีย ซึ่งในภาษาท้องถิ่นมีความหมายว่า “จุดสิ้นสุดของโลก” ดินแดนที่อุณหภูมิดำดิ่งระดับ -50 องศาเซลเซียสและตอนฤดูหนาวแทบจะไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้น
ขณะที่ เวสติ สื่อมวลชนแห่งรัฐรายงานว่านักวิจัย 2 คนจากศูนย์ศึกษาอาร์กติกซึ่งมีฐานบัญชาการในไซบีเรียและนักวิทยาศาสตร์อีกคนจากสถาบันวิทยาศาสตร์ของรัสเซีย มีแผนลงสำรวจเพื่อเก็บตัวอย่างดินและน้ำบริเวณดังกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้ (17)
ซเวซดา ทีวี สถานีโทรทัศน์ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ที่ถ่ายภาพหลุมปริศนานี้ได้ รายงานตั้งข้อสังเกตว่าหลุมนี้น่าจะมีต้นกำเนิดจากเบื้องล่าง และด้วยที่บริเวณดินรอบปากหลุมด้านบนมีสีเข้มจนถึงดำ บ่งชี้ว่าเป็นผลกระทบจากอุณหภูมิที่สูง
สำหรับ ยามาล เป็นหนึ่งในเขตปกครองของรัสเซียที่อุดมไปด้วยแก๊สธรรมชาติ ขณะที่หลุมยักษ์ที่ปากหลุมมีความกว้างราว 80 เมตรแห่งนี้ ถูกพบใกล้กับหล่งขุดเจาะก๊าซธรรมชาติโบวาเนนท์สกี (Bovanentsky) จึงนำมาซึ่งข่าวลือว่ามันอาจมีต้นตอจากแรงระเบิดใต้ดิน
อย่างไรก็ตาม การโผล่ขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจของหลุมขนาดมหึมาแห่งนี้ก็กระพือทฤษฎีต่างๆ นานาบนสื่อสังคมออนไลน์ ไล่ตั้งแต่เป็นจุดลงจอดของยูเอฟโอไปจนถึงเกิดจากอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชนโลก
กระนั้นเบื้องต้นนักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยทวีปอาร์กติกย่อย สันนิษฐานถึงสาเหตุที่น่าจะใกล้เคียงความจริงมากที่สุดว่า น่าจะเกิดจากการระเบิดของการรวมตัวกันระหว่าง แก๊ส น้ำ และเกลือ เนื่องจากในอดีตคาบสมุทรยามาลเคยเป็นทะเล ก่อนที่จะหนาวเย็นกลายเป็นน้ำแข็ง และน้ำแข็งก็มาละลายเพราะภาวะโลกร้อน ซึ่งการละลายของน้ำแข็งในพื้นที่นี้ทำให้เกิดแก๊สขึ้น เมื่อสะสมมากเข้าก็เกิดการระเบิดขึ้นมา
