เอเอฟพี - "บัน คีมุน" เผยสหประชาชาติจะแสดง "ความรับผิดชอบทางจริยธรรม" ด้วยการช่วยเหลือประเทศที่ยากจนข้นแค้นอย่างเฮติ ในการยุติการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย หลังจากที่ถูกกล่าวโทษว่ากองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นเป็นต้นเหตุการระบาด
นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติบอกกับหนังสือพิมพ์ไมอามีเฮรัลด์ ก่อนที่จะออกเดินทางไปเยือนประเทศที่ตั้งอยู่ในแถบแคริบเบียนแห่งนี้ในวันนี้ (14 ก.ค.) เพื่อเยี่ยมหลายครอบครัวที่ได้รับเชื้ออหิวาตกโรค ที่จวบจนบัดนี้ทางสหประชาชาติก็ยังปฏิเสธความรับผิดชอบต่อการระบาดของโรคที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 8,000 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อนั้นสูงถึง 700,000 ราย
ทั้งนี้ ไม่มีการระบาดของอหิวาตกโรคในประเทศเฮติมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 150 ปี จนกระทั่งมีคณะกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ จากประเทศเนปาล ถูกส่งเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในเฮติหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวช่วงเดือนมกราคมปี 2010
ต้นตอของอหิวาตกโรคที่ระบาดในเฮตินั้น ได้รับการตรวจสอบแล้วว่ามาจากแม่น้ำที่ไหลผ่านใกล้กับแคมป์ของกองกำลังสหประชาชาติในเมืองเมียร์บาเลส ซึ่งเป็นจุดที่กองกำลังจากเนปาลประจำการอยู่ แถมสายพันธุ์ของอหิวาตกโรคที่ระบาดในเฮติยังเป็นสายพันธุ์แบบเดียวกับที่พบได้ในเนปาล
นายบัน บอกกับไมอามีเฮรัลด์ว่า ไม่ต้องคำนึงว่าจะมีนัยยะทางกฏหมายหรือไม่ แต่ในฐานะของเลขาธิการสหประชาชาติและในฐานะของคนธรรมดาคนหนึ่ง เขารู้สึกเศร้าใจมาก เขาเชื่อว่าประชาคมนานาชาติ รวมถึงสหประชาชาติ ย่อมที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบทางจริยธรรมในการช่วยชาวเฮติหยุดการระบาดของอหิวาตกโรคครั้งนี้
จวบจนบัดนี้ สหประชาชาติก็ยังไม่ได้ขอโทษหรือจ่ายค่าชดเชยสำหรับการระบาดของอหิวาตกโรคครั้งนี้ แม้ว่าจะโดนฟ้องร้องเป็นคดีความในศาลที่สหรัฐฯ ถึง 3 คดี
กุสตาโว กัลลอน เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศเฮติ ระบุว่า มีความยุ่งยากทางด้านการทูตหลายประการเข้ามาเกี่ยวข้องกับปัญหานี้ ที่ควรจะขจัดไปให้หมด เพื่อที่จะได้ทำให้ชาวเฮติแน่ใจว่า การระบาดของอหิวาตกโรคจะหยุดลงโดยเร็วที่สุด รวมถึงจ่ายค่าชดเชยเต็มจำนวนสำหรับความเสียหายได้รับ
ในระหว่างการเยือนเฮติ นายบันมีแผนที่จะหาผู้บริจาคเงิน เพื่อระดมทุนจำนวน 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6.6 หมื่นล้านบาท) สำหรับใช้ในการรณรงค์กำจัดอหิวาตกโรคให้หมดไปภายใน 10 ปี เพราะชาวเฮติทนทุกข์จากการระบาดครั้งนี้มากแล้ว
เขาระบุด้วยว่า เฮติควรจัดการกับระบบสุขาภิบาลที่ย่ำแย่ซึ่งเป็นต้นตอของโรคด้วย เพื่อป้องกันการระบาดอีก ซึ่งในขณะนี้ประชาคมนานาชาติได้พยายามอย่างหนักในการเอาชนะปัญหายุ่งยากทางการเงินทั่วโลก แถมยังมีวิกฤติหลายอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ว่า ทำไมจึงไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในระหว่างที่อยู่ในเฮติ นายบันจะเดินทางไปยังพื้นที่ภาคกลางเพื่อเริ่มการรณรงค์เกี่ยวกับสุขาภิบาลโดยรวม ร่วมกับนายกรัฐมนตรีเฮติ "โลร็อง ลาม็อต" ซึ่งเป็นความพยายามที่จะยกระดับระบบสุขาภิบาลและสุขภาพประชาชนในเขตพื้นที่ชนบท
สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ยังระบุด้วยว่า นายบันจะพบกับ มิเชล มาเตลลี ประธานาธิบดีเฮติและบรรดาสมาชิกรัฐสภา ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ รวมถึงจะพบกับบรรดาผู้นำของสหประชาชาติที่มาร่วมปฏิบัติภารกิจสร้างเสถียรภาพให้กับเฮติ (MINUSTAH)
ทั้งนี้ ประเทศเฮติต้องต่อสู้กับปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ฝังลึก หลังจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 200,000 - 250,000 ราย และยังทำให้ประชากรอีกกว่า 1.5 ล้านคน ต้องละทิ้งถิ่นฐานที่เคยพำนักอาศัย ขณะที่การเลือกตั้งสภานิติบัญญัติก็ต้องล่าช้าออกไป 3 ปี ซึ่งการรอคอยที่ยาวนานได้ส่งผลให้เกิดวิกฤติทางการเมือง ที่มีการชุมนุมบนถนนโดยกลุ่มต่อต้านรัฐบาล
นายบัน ระบุว่า ข้อความทางการเมืองของเขาที่จะส่งไปยังบรรดาผู้นำเฮติ ทั้งรัฐบาลและผู้นำรัฐสภา จะเกี่ยวกับความสำคัญในการขับเคลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ และเขาเห็นด้วยที่ควรจะมีการเลือกตั้งในเดือนตุลาคมที่กำลังจะมาถึง
หลังจากการเยือนเฮติ นายบันจะเดินทางต่อไปยังสาธารณรัฐโดมินิกัน ที่ตั้งอยู่บนเกาะฮิสปานิโอลา โดยนายบัน จะไปพบกับ ดานิโล เมดินา ประธานาธิบดีสาธารณรัฐโดมินิกัน กับบรรดาสมาชิกสภานิติบัญญัติ พร้อมกล่าวปราศรัยในที่ประชุมร่วม