เอพี/เอเจนซีส์ - ในวันจันทร์ (18) ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประท้วงชาวเฮติหลายพันคนได้เกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังเดินขบวน รวมทั้งเผาสิ่งกีดขวางในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เพื่อกดดันให้ประธานาธิบดี มิเชล มาร์เทลลี ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นการเรียกร้องที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ มาร์เทลลี ก้าวขึ้นสู่อำนาจในปี 2011
ตำรวจปราบจลาจลเฮติได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่เพื่อสกัดกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหลายพันคนกลางเมืองหลวงเฮติเมื่อวานนี้ (18) โดยเฮติ ได้ประสบปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองมาตลอด และมีการเดินขบวนเกิดขึ้นถี่ยิบท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวของพลเมืองประเทศนี้ที่ประสบปัญหาค่าครองชพที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกัน ปัญหาคอร์รัปชันในเฮตินั้นก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
ซึ่งที่ผ่านมา ประธานาธิบดีมาร์เทลลี ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ได้ปฎิญาณที่จะนำความเป็นหนึ่งเดียวทางการเมืองกลับคืนสู่เฮติอีกครั้งในงานการฉลองการต่อสู้ครั้งสุดท้ายก่อนเฮติจะประกาศอิสรภาพจากฝรั่งเศสในปี 1804 ที่เมืองแคปเอเตียง ขณะเดียวกัน เฮติยังคงไม่ฟื้นตัวจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงเมื่อปี 2010 และยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในซีกโลกตะวันตก
และในวันจันทร์ (18) บรรดาผู้ประท้วงได้เผายางรถยนต์ที่ใช้เป็นเครื่องกีดขวางเดินไปตามท้องถนนในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ส่งเสียงเรียกร้องให้ มาร์เทลลี ลาออกในทันที “เราก้าวไปข้างหน้าเพื่อเรียกร้องให้ มาร์เทลลี ลาออก และผู้ประท้วงจะไม่หยุดหากเขายังอยู่ในตำแหน่ง” ฌอน แดเนียล หนึ่งในผู้ประท้วงเผยกับเอพี
โดยผู้ประท้วงที่มีก้อนหินเป็นอาวุธได้พยายามปาเข้าใส่ตำรวจ และขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ก็ยิงตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา และมีรายงานว่า มีผู้ลั่นกระสุนปืนในกรุงปอร์โตแปรงซ์ แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีมาร์เทลลี ได้ออกเดินขบวนกลางเมืองหลวงเฮติเช่นกันโดย ทั้งฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายค้านรัฐบาลเฮติได้ประจันหน้า และเปิดฉากเข้าปะทะขว้างปาก้อนหินใส่กันในที่สุด และยังมีการจัดประท้วงกลุ่มเล็กๆ ขึ้นในเมืองแคปเอเตียง ที่อยู่ทางเหนือของประเทศอีกด้วย
การประท้วงเมื่อวานนี้ (18) นั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในการประท้วงครั้งที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ มาร์เทลลี ก้าวขึ้นสู่อำนาจเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2011