น้ำมันร่วงหนักกว่า$2 กังวลอุปทานล้นตลาด หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำปิดสวนทาง

เอพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันร่วงลงแรงเมื่อวันศุกร์ (11) ปิดลบวันเดียวหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน หลังอุปทานลิเบียส่อกลับสู่ตลาดท่ามกลางอุปสงค์โลกที่อ่อนแอ ส่วนวอลล์สตรีท ขยับขึ้นจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ผิดกับทองคำที่ปรับลด หลังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจยุโรป

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 2.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 100.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ตั้งแต่เข้าสู่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา ราคาร่วงลงมาแล้ว 4.54 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 4.3 ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันในช่วงเดือนมิถุนายน แตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน หลังมีความกังวลว่าสถานการณ์ความรุนแรงในอิรัก อาจก่อความยุ่งเหยิงทางอุปทานในชาติผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโอเปก อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันปรับลงในช่วง 2 สัปดาห์หลังสุด เมื่อการรุกคืบของพวกนักรบอิรักไม่กระทบต่อที่ตั้งน้ำมั้น และการส่งออกของประเทศ

นอกจากอุปทานที่ไม่ถูกกัดเซาะในอิรักแล้ว ก็ยังมีความคาดหมายด้วยว่า น้ำมันดิบจากลิเบียจะกลับเข้าสู่ตลาดเร็วๆ นี้ หลังจากการส่งออกในประเทศแห่งนี้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบมานานกือบปี แต่ในข้อตกลงล่าสุด ระหว่างรัฐบาลกับนักรบท้องถิ่้่นก็จะเปิดทางให้มีการส่งออกเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ก่อความกังวลว่าอุปทานอาจล้นตลาด

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (11) ปิดบวกเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทต่างๆ ที่ค่อยๆ ทยอยเปิดเผยออกมาแล้ว

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 27.74 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,942.81 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.81 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,967.49 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 19.29 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,415.49 จุด

ส่วนราคาทองคำวันศุกร์ (11) ปรับลดเล็กน้อย จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยูโรโซนและความกังวลต่อปัญหาภาคธนาคารในโปรตุเกส โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,337.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์