น้ำมันลงแรงหลังลิเบียจ่อเพิ่มกำลังผลิต หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำขยับขึ้น

เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันวานนี้ (2 ก.ค.) ร่วงลงแรง จากแนวโน้มลิเบียเพิ่มส่งออกผสมโรงอุปทานโลก สวนทางกับวอลล์สตรีทและทองคำที่ปิดบวกตามข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของอเมริกา

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 86 เซ็นต์ ปิดที่ 104.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 111.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน

ทิม อีแวนส์ จากซิตี ฟิวเจอร์ส ให้ความเห็นว่า “ตลาดน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงในวันพุธ เนื่องจากลิเบียเตรียมกลับมาเปิดคลังส่งออกน้ำมัน 2 แห่งเร็วๆ นี้” ทั้งนี้การผลิตน้ำมันของลิเบียเป็นไปอย่างจำกัดมานานกว่า 1 ปี สืบเนื่องจากเหตุความไม่สงบภายในประเทศ และเวลานี้มีกำลังผลิตเพียง 320,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่เคยผลิตได้ถึง 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (2) ปิดในแดนบวก โดยดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี แตะระดับสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ จากข้อมูลภาคแรงงานอันแข็งแกร่งภายในประเทศ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 20.17 จุด (0.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,976.24 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.30 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,974.62 จุด แนสแดค ลดลง 0.92 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,457.73 จุด

รายงานการจ้างงานของ เอดีพี (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐฯ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 281,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน สูงขึ้นจาก 179,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ขณะที่ข้อมูลทางบวกนี้มีออกมาก่อนหน้าที่กระทรวงแรงงานอเมริกาเตรียมเผยแพร่ตัวเลขคนว่างงานและการจ้างงานประจำเดือนมิถุนายน ในวันพฤหัสบดี (3)

หลักฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ร้อนแรงขึ้นของสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาทองคำวันพุธ (2) ขยับขึ้นเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 4.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,330.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์