เอเอฟพี - เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศกร้าวในวันพุธ (9 ก.ค.) จะถล่มทางอากาศต่อฮามาสในฉนวนกาซาหนักหน่วงยิ่งขึ้น หลังปฏิบัติการโจมตีช่วง 2 วันที่ผ่านมา คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์แล้วกว่า 40 ศพ เตือนพวกนักรบต้องชดใช้อย่างเจ็บปวดต่อกรณียิงจรวดข้ามพรมแดนเข่นฆ่าพลเรือนยิว ขณะที่ความหวังสกัดกลั้นวิกฤตไม่ให้ลุกลามบานปลายต้องสะดุดลง เมื่ออียิปต์ปฏิเสธเป็นคนกลาง แม้เรียกร้องทั้งสองฝ่ายหยุดขยายความขัดแย้ง
“เราตัดสินใจโจมตีฮามาสและองค์กรก่อการร้ายในกาซาหนักหน่วงยิ่งขึ้น” ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอ้างคำกล่าวของนายเนทันยาฮู หลังจากปรึกษากับเหล่าผู้บัญชาการกลาโหมที่ภาคใต้ของอิสราเอล “กองทัพต้องเตรียมพร้อมสำหรับทุกสิ่งที่อาจเกิดขึ้น ฮามาสจะต้องชดใช้ที่ยิงจรวดเข้าใส่พลเรือนอิสราเอล ความปลอดภัยของประชาชนชาวอิสราเอลต้องมาเป็นอันดับแรกและคือสิ่งสำคัญที่สุด”
ในวันพุธ (9) นับเป็นวันที่ 2 ของ “ปฏิบัติการป้องกันเขตแดน” ของอิสราเอล จนถึงตอนนี้เครื่องบินรบของยิวจัดการถล่มเป้าหมายแล้วกว่า 550 จุดในกาซา ส่วนพวกนักรบฮามาสก็ตอบโต้ด้วยจรวดราว 165 ลูก ในนั้นบางส่วนตกในเยรูซาเลม และเทลอาวีฟ ด้วยบางลูกตกไกลถึงเมืองฮาเดรา ห่างจากฉนวนกาซากว่า 116 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินบอกในวันพุธ (9) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลช่วง 2 วันที่ผ่านมามีมากกว่า 43 ศพ ในนั้นมีทั้งนักรบ แต่ก็รวมถึงผู้หญิงและเด็กด้วย ขณะที่ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บสูงถึง 370 คน
ขณะเดียวกัน ในวันพุธ (9) อียิปต์ ซึ่งมีสนธิสัญญาสันติภาพกับอิสราเอลปี 1979 และมีบทบาทสำคัญเป็นคนกลางของข้อตกลงหยุดยิงในอดีตระหว่างฮามาสและรัฐยิว ออกมาเรียกร้องให้สองฝ่ายระงับขยายความขัดแย้ง แต่ก็ปฏิเสธความหวังต่อการเข้ามาเป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยในเหตุความรุนแรงรอบนี้
การส่งสัญญาณของอียิปต์ว่าจะไม่ยุ่งในความขัดแย้งระลอกล่าสุดมีขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลใหม่ในไคโรกับพวกฮามาสพุ่งสูง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของฮามาสก็ประกาศลั่นว่าพวกนักรบจะไม่ยอมจำนนต่อปฏิบัติการโจมตีทางอากาศขนานใหญ่ของอิสราเอลในวันพุธ (9)
“ไม่มีการเจราหยุดยิง ในทางปฏิบัติยังมีการติดต่อประสานงานกันอยู่ แต่อิสราเอลไม่สนใจที่จะมีคนกลาง พวกเขาต้องการเห็นการยอมจำนน” นายโอซามะ ฮัมดัน ซึ่งพำนักอยู่ในเบรุตกล่าว “สถานการณ์จะชัดเจนขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เราจะตอบโต้สถานการณ์ที่ลุกลามนี้ และอิสราเอลจะได้ตระหนักว่าความรุนแรงที่บานปลายไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขาเลย”