xs
xsm
sm
md
lg

อังกฤษจ่อตั้งรูปปั้น “มหาตมะ คานธี” หน้ารัฐสภา ใกล้นายกฯ “เชอร์ชิล” อริเก่าสมัยสงคราม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รูปปั้น มหาตมะ คานธี ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย
เอเอฟพี - รูปปั้นของ มหาตมะ คานธี มหาบุรุษซึ่งเป็นผู้ผลักดันให้อินเดียประกาศเอกราชจากอังกฤษ และเคยถูกคุมขังครั้งแล้วครั้งเล่า กำลังจะถูกนำไปตั้งที่ด้านนอกรัฐสภาอังกฤษ เคียงข้างกับเหล่าศัตรูหลายคนของเขาในสมัยที่แดนภารตะตกเป็นอาณานิคมของเมืองผู้ดี
มหาตมะ คานธี (ปี 1944)
จอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอังกฤษ ซึ่งกำลังเดินทางไปยังกรุงนิวเดลีเพื่อพบกับรัฐบาลอินเดียชุดใหม่ของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ได้ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่าอังกฤษจะ “เก็บเขาไว้ในความทรงจำ” โดยการตั้งรูปปั้นของคานธีไว้ ณ จัตุรัสรัฐสภา

ด้วยเหตุนี้ วีรบุรุษผู้นำเอกราชคืนมาสู่อินเดียจะได้กระทบไหล่กับ วินสตัน เชอร์ชิลล์ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษในยุคสงครามโลก ซึ่งครั้งหนึ่งเคยกล่าวว่าอยากให้คานธีตายเพราะอดอาหาร ทั้งยังตั้งฉายาอันโด่งดังให้แก่คานธีว่า “นักพรตเปลือยครึ่งท่อน”

นอกจากนี้ รูปปั้นของคานธีจะตั้งอยู่ใกล้กับ แจน สมัตส์ ผู้นำแอฟริกาใต้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นผู้นิยมการเหยียดเชื้อชาติ

คานธีถูกรัฐบาลของสมัตส์ควบคุมตัวจากการที่เขาจัดการรณรงค์เรียกร้องสิทธิให้แก่ชาวอินเดียที่ถูกกดขี่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ในประเทศบ้านเกิด อันเป็นที่กล่าวขานอย่างกว้างขวาง จนสร้างความหวั่นวิตกให้แก่รัฐบาลอังกฤษในเวลานั้น กระทั่งอินเดียประกาศเอกราชเมื่อปี 1947

ออสบอร์นระบุในคำแถลงว่า “ผมหวังว่า อนุสรณ์สถานแห่งนี้จะเป็นของขวัญที่คงทน และคู่ควรกับวีรกรรมของเขาในอังกฤษ ตลอดจนเป็นสัญลักษณ์ถาวรของมิตรภาพระหว่างเรากับอินเดีย”

ทั้งนี้ จัตุรัสรัฐสภาตั้งอยู่ตรงข้ามกับพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งเป็นที่ทำการของสมาชิกสภานิติบัญญัติอังกฤษ และอนุสาวรีย์ของบรรดารัฐบุรุษและบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์อื่นๆ เป็นต้นว่า เนลสัน แมนเดลา อดีตผู้นำของแอฟริกาใต้

ออสบอร์น และ วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ มีกำหนดเข้าพบโมดีในวันนี้ (8) โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามผลักดันการค้า และการเปิดช่องทางให้กิจการของเมืองผู้ดีเข้าไปลงทุนในตลาดอินเดีย
(แฟ้มภาพ) รูปปั้น วินสตัน เชอร์ชิล ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษในช่วงปี 1940 ถึง 1945 และระหว่างปี 1951 ถึง 1955
เฮก ซึ่งเดินทางไปเยี่ยมชมอนุสรณ์ของคานธี ณ กรุงนิวเดลี กล่าวในวันนี้ (8) ว่า “สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญที่สุดและเป็นขุมพลัง” ขณะที่สุชมา สวารัช รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลอังกฤษมา ณ ที่นี้

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ ได้เดินทางเยือนสถานที่เกิดเหตุสังหารหมู่ปี 1919 เมื่อทหารอังกฤษยิงผู้ประท้วงชาวอินเดียที่มาตัวเปล่าเสียชีวิตไปหลายร้อยคน

เขากล่าวถึงเหตุสังหารหมู่ที่สวนสาธารณะจัลเลียนวลาบาฆ ในเมืองอมฤตสาร์ว่าเป็นเรื่อง “น่าละอาย” แต่ก็ไม่ได้แถลงขออภัยต่อสาธารณชน

ทั้งนี้ ประชาชนได้แสดงปฏิกิริยาต่อการสร้างรูปปั้นคานธีกันไปต่างๆ นานา

ซูเฮล เซต นักวิจารณ์และผู้จัดการฝ่ายการตลาดระบุในทวิตเตอร์ว่า “การประกาศข่าวนี้จะทำให้คุณเอาชนะใจชาวอินเดียทุกคน (และ) ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคนในโลก”

กาบีร์ ทาเนจา ผู้สื่อข่าวกล่าวติดตลกว่า “รูปปั้นของเชอร์ชิลคงจะโกรธที่เห็นรูปปั้นคานธีมาตั้งอยู่ข้างๆ”

บรรดารัฐบาลของชาติยุโรป เป็นต้นว่า อังกฤษ และสหรัฐฯ ได้พากันบอยคอตต์โมดีมานานนับทศวรรษ จากการที่เขาพัวพันกับเหตุจลาจลทางศาสนาในรัฐคุชราต เมื่อปี 2002 ซึ่งทำให้มีชาวมุสลิมสียชีวิตไปเกือบพันคน ในเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งมุขมนตรีของรัฐดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา

อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้เพิ่มความพยายามฟื้นฟูสายสัมพันธ์กับผู้นำอินเดีย เพื่อทดแทนช่วงเวลาที่ขาดหายไป ภายหลังที่โมดีสามารถคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยมีรองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส และ จอห์น แมคเคน สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ พากันแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนเขาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ดมิตรี โรโกซิน รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย จับมือกับนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย ระหว่างการหารือกันที่กรุงนิวเดลีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น