บาห์เรนไม่ต้อนรับ รมช.สหรัฐฯ ไล่กลับประเทศฐานแทรกแซงกิจการภายใน

เอเอฟพี - รัฐบาลบาห์เรนเมื่อวันจันทร์ (7 ก.ค.) พูดชัด นายทอม มาลินาวสกี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ประจำสำนักประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และแรงงาน “ไม่เป็นที่ต้อนรับ” ในชาติที่ปกครองด้วยชาวสุหนี่และควรเดินทางออกไปในทันที หลังไม่พอใจที่ถูกแทรกแซงกิจการภายใน

ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านสำนักข่าวแห่งรัฐบีเอ็นเอ กระทรวงการต่างประเทศก ล่าวหานายมาลินาวสกีว่า “แทรกแซงกิจการภายในของบาห์เรน ด้วยการแอบพบปะกับพรรคการเมืองพรรคหนึ่งโดยเฉพาะที่จะก่อความเสียหายแก่คู่สนทนาอื่นๆ” อ้างถึงกลุ่มเคลื่อนไหวฝ่ายค้านที่นำโดยพวกชีอะห์

อย่างไรก็ตาม เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่านายมาลินาวสกี ยังคงอยู่ในบาห์เรน ที่ตั้งของฐานทัพเรือที่ 5 แห่งกองทัพเรืออเมริกา “เขาอยู่ระหว่างเดินทางเยือนเพื่อย้ำและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี เช่นเดียวกับสนับสนุนความพยายามปฏิรูปของกษัตริย์” เธอกล่าว “เจ้าหน้าที่ของเรามีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของบาห์เรนอย่างใกล้ชิดที่นั่น”

แหล่งข่าวชาวบาห์เรนระบุว่า นายมาลินาวสกีพบปะกับกลุ่มเคลื่อนไหวฝ่ายค้านชีอะห์ อัล-เวฟัก ซึ่งเป็นสมาคมการเมืองที่ไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้เจาะจงว่านายมาลินาวสกีแอบไปพบกับใคร แต่ย้ำว่าการพบปะของเขาขัดแย้งกับธรรมเนียมทางการทูตและไม่เคารพต่อความมสัมพันธ์ระหว่างรัฐ"

บาห์เรน เกาะยุทธศาสตร์ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามอ่าวเปอร์เซียกับอิหร่านและเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือที่ 5 แห่งกองทัพสหรัฐฯ ขณะที่วอชิงตันเป็นพันธมิตรกับราชวงศ์อัล-คาลิฟา มาอย่างช้านาน

ประเทศแห่งนี้พยายามฟื้นตัวจากผลกระทบของการประท้วงที่นำโดยชาวชีอะห์ซึ่งปะทุขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2011 ที่แผ่ลามมาจากการ “อาหรับสปริง” ประชาชนลุกฮือในประเทศอื่นๆในภูมิภาคและเรียกร้องปฏิรูปประชาธิปไตยในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

กองกำลังความมั่นคงที่ได้รับการสนับสนุนจากพวกทหารที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย สามารถสยบผู้ประท้วงในอีกราว 1 เดือนถัดมา ทว่านับตั้งแต่นั้นก็มีการชุมนุมกลุ่มเล็กๆ ตามหมู่บ้านของชาวชีอะห์เป็นพักๆ และเกิดปะทะกับตำรวจหลายต่อหลายครั้ง