เอเอฟพี - เกาหลีเหนือประกาศในวันนี้ (3 ก.ค.) ว่าจะเดินหน้าผลักดันการทดสอบขีปนาวุธนำวิถีทางยุทธศาสตร์ต่อไป โดยไม่สนใจเสียงเรียกร้องของนานาชาติให้ระงับโครงการอาวุธเหล่านั้น ในวันเดียวกับที่ผู้นำจีนไปเยือนกรุงโซล ซึ่งการไปเยือนครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการดูหมิ่นเกาหลีเหนือ
“เกาหลีเหนือจะเดินหน้าฝึกซ้อมยิงขีปนาวุธนำวิถีทางยุทธวิธีที่มีความแม่นยำสูงต่อไป” โฆษกของกองกำลังด้านยุทธศาสตร์แห่งกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือแถลงในวันนี้ (3 ก.ค.) โดยเรียกการทดสอบนี้ว่า “การซักซ้อมที่ถูกต้องตามกฎหมาย” ของอำนาจอธิปไตย
สำหรับการดำเนินการทดสอบขีปนาวุธหลายครั้งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาของเกาหลีเหนือนั้น ถูกมองว่าเป็นแสดงแสนยานุภาพทางการทหารให้ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ที่จะไปเยือนกรุงโซลเป็นเวลา 2 วันได้เห็น
ทั้งนี้ จีนคือพันธมิตรรายสำคัญของเกาหลีเหนือ แต่ผู้นำจีนกลับไปพบปะกับพัค กึน-ฮเย ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ถึง 4 ครั้ง โดยเป็นการประชุมร่วมกัน 2 ครั้ง ในขณะที่ทางผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ยังไม่เคยนั่งร่วมโต๊ะกับผู้นำจีนเลยซักครั้ง
ทางด้านสหรัฐอเมริกาได้ออกมาวิจารณ์การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในช่วงหลังๆ ว่าเป็นปัญหาและทำให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นก็ออกมาต่อต้าน
ในการทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกของรอบนี้ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (26 มิ.ย.) ได้ถูกยกย่องจากสื่อของทางการเกาหลีเหนือว่าเป็นขีปนาวุธนำวิถีที่มีความล้ำสมัย แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของสมรรถภาพทางการทหารของเกาหลีเหนือ
หลังจากนั้นทางการเกาหลีใต้ก็ออกมารายงานว่ามีการทดสอบขีปนาวุธครั้งที่สองในวันอาทิตย์ (29 มิ.ย.) โดยเป็นขีปนาวุธนำวิถีพิสัยใกล้ “สกั๊ด” จำนวน 2 ลูก ซึ่งมีระยะทำการประมาณ 500 กิโลเมตร ต่อมาในวันพุธทางเกาหลีเหนือก็ยิงจรวดออกมาอีก 2 ลูก มีระยะทำการประมาณ 180 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ระบุว่ามีหลายมูลเหตุจูงใจที่ทำให้เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธหลายครั้งในช่วงนี้ ตั้งแต่ความพยายามที่จะอวดศักยภาพเพื่อหวังประโยชน์ภายในประเทศ ไปจนถึงแสดงแสนยานุภาพทางการทหารให้ประชาคมโลกได้เห็น หรืออาจจะเป็นการส่งสัญญาณเตือนเกาหลีใต้ก็ได้