อดีต ปธน.ฝรั่งเศส “นิโกลาส์ ซาร์โกซี” ถูกตั้งข้อหา “ทุจริต-ใช้อำนาจมิชอบ”

เอเอฟพี – อดีตประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศสถูกตั้งข้อหาทุจริตและใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ซึ่งอาจทำให้ฝันของเขาที่จะกลับมาทวงบัลลังก์ประธานาธิบดีเมืองน้ำหอมในปี 2017 ต้องสูญสลาย อัยการฝรั่งเศสแถลงวันนี้ (2 ก.ค.)

ซาร์โกซีถูกนำตัวไปสอบปากคำนานถึง 15 ชั่วโมง และนับเป็นอดีตผู้นำฝรั่งเศสคนแรกที่ถูกตำรวจควบคุมตัวด้วยข้อหาอาชญากรรม

ผู้นำฝ่ายขวารายนี้เดินทางด้วยรถยนต์สีดำไปถึงสถานตำรวจย่านนองแตร์ในกรุงปารีสเมื่อเวลา 08.00 น.วานนี้ (1 ก.ค.) ภายหลังถูกตั้งข้อหาใช้อำนาจแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นหนึ่งในคดีคอร์รัปชันอีกหลายคดีที่ซาร์โกซีตกเป็นผู้ต้องหา

ถ้อยแถลงจากอัยการฝรั่งเศสระบุว่า เมื่อการสอบปากคำเสร็จสิ้น อดีตประธานาธิบดีก็ถูกนำตัวไปขึ้นศาลเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา และถูกตั้งข้อหาคอร์รัปชันและใช้อำนาจแทรกแซงโดยมิชอบ ซึ่งอาจมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี

เธียร์รี เฮอร์ซ็อก ทนายความของซาร์โกซี และกิลแบร์ อาซิแบร์ ผู้พิพากษาศาลแขวงซึ่งถูกตำรวจควบคุมตัวก่อนหน้านี้พร้อมกับผู้พิพากษาศาลแขวงคนอีกคน ก็ถูกตั้งข้อหาใช้อำนาจแทรกแซงโดยมิชอบเช่นเดียวกัน

พนักงานสอบสวนเชื่อว่า ซาร์โกซีเคยล้วงข้อมูลวงในจากผู้พิพากษาศาลแขวง 1 ใน 2 คน เพื่อให้ล่วงรู้ถึงความคืบหน้าในการไต่สวนคดีรับเงินหาเสียงเลือกตั้งโดยมิชอบเมื่อปี 2007 และยังได้รับแจ้งเตือนจากบุคคลระดับสูงคนหนึ่งในเรื่องที่เขาถูกคณะผู้พิพากษาดักฟังโทรศัพท์

คดีนี้ถูกเปิดเผยขึ้นหลังจากคณะผู้พิพากษาซึ่งดักฟังโทรศัพท์ของซาร์โกซี พบว่าอดีตผู้นำรายนี้มีเบอร์โทรศัพท์ลับซึ่งลงทะเบียนโดยใช้ชื่อแฝง

ซาร์โกซี วัย 59 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาในหลายคดี นับตั้งแต่พ่ายแพ้ให้ ฟรองซัวส์ ออลลองด์ จากพรรคโซเชียลลิสต์ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2012

ซาร์โกซี หวังที่จะหวนคืนสู่สนามการเมืองให้ทันสู้ศึกเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศสในปี 2017 แต่แผนการอันสวยหรูอาจกลายเป็นเพียงฝันลมๆ แล้งๆ หลังจากที่เขาถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมในวันนี้ (2)

อดีตผู้นำร่างเล็กยืนกรานมาโดยตลอดว่าไม่เคยกระทำความผิด ขณะที่พวกพันธมิตรการเมืองฝ่ายขวาก็ประณามความพยายามเอาผิดซาร์โกซี ว่าไม่ต่างจากการ “ล่าแม่มด”

ต้นตอของคดีอื้อฉาวมาจากข้อกล่าวหาที่ว่า ซาร์โกซี ได้รับเงินสนับสนุนมูลค่า 50 ล้านยูโรจาก พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำเผด็จการของลิเบีย มาใช้หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2007 และยังเคยรับซองจดหมายใส่เงินสดจาก ลิเลียน เบตตองกูร์ ทายาทบริษัทเครื่องสำอางลอรีอัล สตรีผู้ร่ำรวยที่สุดในฝรั่งเศส

ซาร์โกซีชี้ว่า เรื่องที่เขารับเงินจากกัดดาฟีนั้นน่าขำสิ้นดี เพราะรัฐบาลฝรั่งเศสในสมัยของเขามีบทบาทสำคัญในการโค่นล้มกัดดาฟีเมื่อปี 2011 เสียด้วยซ้ำ ส่วนคดีรับเงินจากเบตตองกูร์ หญิงชราวัย 90 ปีกว่าที่เลอะเลือนจนไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้าง ก็ถูกเคลียร์ไปเรียบร้อยตั้งแต่ปีที่แล้ว

เหรัญญิกผู้ดูแลงบหาเสียงของซาร์โกซี เป็นบุคคล 1 ใน 10 รายที่กำลังรอการไต่สวนในคดีเบตตองกูร์ ส่วนคดีรับเงินจากกัดดาฟีนั้นยังอยู่ระหว่างการสืบสวน รวมไปถึงอีกหลายคดีที่ซาร์โกซีถูกอ้างว่ามีส่วนพัวพัน

ซาร์โกซียังถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจากข้อตกลงการค้าอาวุธให้กับปากีสถาน ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะรับตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส และเมื่อเดือนที่แล้วก็ยังถูกโยงคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับทุนที่เขาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2012 ด้วย

สำหรับคดีหลังสุด ผู้นำพรรคยูเอ็มพีได้ลาออกจากพรรคไปตั้งแต่เดือนที่แล้ว หลังถูกเปิดโปงว่าใช้เงินกว่า 10 ล้านยูโรสนับสนุนซาร์โกซี แต่กลับแจ้งว่าเป็นเงินค่าใช้จ่ายของพรรค ส่วนทาง ซาร์โกซี ก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารค่าใช้จ่ายในการรณรงค์หาเสียงและกิจกรรมอื่นๆ