อดีตผู้นำฝรั่งเศสเข้ามอบตัวตัวคดีบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม

เอเอฟพี - นิโกลาส์ ซาร์โกซี ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ (1 ก.ค.) ทำให้เขากลายเป็นอดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนแรกที่ถูกควบคุมตัวไว้สอบสวน โดยที่เขาถูกระบุว่ามีส่วนพัวพันการใช้อิทธิพลบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม

ซาร์โกซี ได้นั่งรถยนต์สีดำมาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงเช้าประมาณ 8.00 น. ที่ฝรั่งเศส (ประมาณ 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่งในเขตนองแตร์ทางตะวันตกของกรุงปารีส

อดีตผู้นำฝรั่งเศสรายนี้จะถูกควบคุมตัวในช่วงแรกเป็นเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการขยายเวลาเพิ่มอีกวัน ก่อนที่จะมีการตั้งข้อหาหรือไม่ก็ปล่อยตัวเขา

การคุมตัวซาร์โกซี อดีตผู้นำเอียงขวาที่บริหารประเทศฝรั่งเศสช่วงปี 2007 - 2012 เกิดขึ้นหลังจากที่ เธียร์รี่ แฮร์โซก ทนายของเขากับผู้พิพากษาอีกสองรายโดนควบคุมไปแล้วก่อนหน้านี้

นี่เป็นคดีล่าสุดจากบรรดาคดีอื่นๆ อีกมากมายของอดีตผู้นำฝรั่งเศสวัย 59 ปีรายนี้ นับตั้งแต่ที่เขาพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2012 ให้กับประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนปัจจุบัน “ฟรองซัว โอล็องต์”

ซาร์โกซี เคยบอกเป็นนัยว่าจะกลับมาสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2017 แต่ความหวังของเขาอาจจะต้องเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่ถ้าเขาถูกตั้งข้อหาในคดีนี้

สเตฟาน เลอ โฟล โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส ระบุว่า ไม่มีแรงกดดันทางการเมืองใดๆ ต่อศาลสำหรับคดีของซาร์โกซี

“ระบบยุติธรรมกำลังดำเนินการสืบสวนและจะเป็นเช่นนี้ไปตามครรลองจนสิ้นสุดคดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี จะเผชิญหน้ากับกระบวนการยุติธรรมเช่นเดียวกับคนอื่นๆ” สเตฟาน กล่าว

เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกำลังมองหาช่องทางที่จะตั้งข้อหาว่า อดีตผู้นำฝรั่งเศสรายนี้ได้รับความช่วยเหลือจากแฮร์โซก ในการที่จะบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม พวกเขาสงสัยว่า ซาร์โกซี ได้รับข้อมูลวงในเกี่ยวกับความคืบหน้าของอีกคดีมาจากผู้พิพากษารายหนึ่ง เพื่อแลกกับการสนับสนุนให้ได้ตำแหน่งงานในโมนาโก

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกำลังรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ว่า ซาร์โกซีได้รับข้อมูลวงในมาแบบผิดกฏหมาย จนทราบเรื่องที่โทรศัพท์ของเขาถูกดักฟังโดยผู้พิพากษา ผู้กล่าวหาว่า เงินที่ใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2007 ของซาร์โกซีนั้นได้รับมาจาก มูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำเผด็จการของลิเบีย

ซาร์โกซี ถูกกล่าวหาว่า ได้รับความช่วยเหลือจนชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2007 ด้วยเงิน 50 ล้านยูโรของกัดดาฟี รวมถึงยังมีเงินสดจำนวนมากที่ ลิเลียน เบตตองกูร์ เศรษฐีนีผู้เป็นทายาทของธุรกิจเครื่องสำอางลอรีอัล ยัดใส่ซองให้อดีตผู้นำฝรั่งเศสรายนี้

อย่างไรก็ตาม ซาร์โกซีปฏิเสธว่าคำกล่าวอ้างของกัดดาฟีนั้นเป็นเรื่องเหลวไหล ส่วนเรื่องรับเงินมาจากเบตตองกูร์ก็ถูกเคลียร์ไปตั้งแต่ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นเศรษฐีนีคนดังกล่าวมีสภาพจิตใจอ่อนแอเกินกว่าที่จะรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเจ้าหน้าที่เหรัญญิกของซาร์โกซีรายหนึ่ง ที่ตกเป็น 1 ใน 10 บุคคลที่กำลังรอการพิจารณาของศาลในคดีดังกล่าว

ปัจจุบันการสืบสวนเรื่องเงินที่ได้จากกัดดาฟียังคงดำเนินการอยู่ เรื่องนี้มีความเกี่ยวโยงกับคดีเมื่อปีก่อน ที่พวกผู้พิพากษาฝ่ายสอบสวนได้รับอนุญาตให้ดักฟังโทรศัพท์ของอดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่เคยมีให้เห็นมาก่อน

ซาร์โกซี นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวมากมายที่กำลังดำเนินการสืบสวนอยู่ในขณะนี้ นอกจากคดีที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังมีเรื่องที่ยืดเยื้อมายาวนานอย่างคดีที่เขาถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจากข้อตกลงการค้าอาวุธให้กับปากีสถาน ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะรับตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส แถมเขายังมีส่วนเชื่อมโยงกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับเงินทุนที่ใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในปี 2012 อีกด้วย

โดยคดีหลังสุดนี้ ทางด้านผู้นำพรรคยูเอ็มพีได้ลาออกจากพรรคไปตั้งแต่เดือนที่แล้ว หลังจากที่ปรากฏว่าได้ใช้เงินกว่า 10 ล้านยูโรให้การสนับสนุนซาร์โกซี แต่กลับแจ้งว่าเป็นเงินค่าใช้จ่ายของพรรค ส่วนทางซาร์โกซีก็ออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องใดๆ ในการปลอมแปลงเอกสารค่าใช้จ่ายในการรณรงค์หาเสียงและกิจกรรมอื่นๆ โดยที่การสืบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บรรดาผู้พิพากษาของฝรั่งเศสได้แสดงให้เห็นว่ามีความพร้อมในการไล่ล่าพวกอดีตผู้นำฝรั่งเศส หลังจากที่เคยทำสำเร็จมาแล้วกับ ฌากส์ ชีรัก ผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีก่อนหน้าซาร์โกซี

สำหรับ ชีรัก เขาถูกพิพากษาตัดสินในปี 2011 ว่ามีความผิดข้อหาคอร์รัปชัน ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีของกรุงปารีส แต่ไม่ต้องขึ้นศาลเพราะปัญหาสุขภาพของเขาในขณะนั้น โดยเขาได้รับโทษให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี