เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีเหนือแถลงวันนี้ว่า (30 มิ.ย.) นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน 2 คนที่ถูกคุมขังอยู่จะถูกนำตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาความผิดในข้อหาต่างๆ รวมไปถึง “การกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐ”
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอที่เป็นกระบอกเสียงให้เปียงยางรายงานว่า ข้อสงสัยเกี่ยวกับ “การกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐ” โดย ทอดด์ มิลเลอร์ และ เจฟฟรีย์ เอ็ดเวิร์ด ฟาวล์ ได้รับการยืนยันแล้วจากหลักฐาน และคำให้การของพวกเขา
“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเกาหลีเหนือกำลังดำเนินการสืบสวน และเตรียมนำพวกเขาขึ้นสู่ชั้นศาลด้วยข้อหาที่ได้รับการยืนยันแล้ว” เคซีเอ็นเอระบุ
มิลเลอร์ วัย 24 ปี ถูกจับกุมเมื่อเดือนเมษายน หลังจากเขาฉีกหนังสือเดินทางต่อหน้าแผนกตรวจคนเข้าเมือง พร้อมร้องขอลี้ภัยในรัฐคอมมิวนิสต์แห่งนี้ ส่วน ฟาวล์ ซึ่งเดินทางเข้าไปในเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 29 เมษายน ถูกจับหลังจากวางคัมภีร์ไบเบิลทิ้งไว้ที่โรงแรม ซึ่งนับเป็นชาวอเมริกันรายที่ 3 ที่ถูกรัฐสันโดษแห่งนี้คุมตัวไว้
เคนเนธ แบ ชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีที่ถูกศาลโสมแดงระบุว่าเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาคริสต์ที่ไม่ประสงค์ดี ก็เป็นอีกรายที่ถูกคุมตัวอยู่ในเกาหลีเหนือ หลังจากเขาถูกจับเมื่อปี 2012 และถูกตัดสินให้ใช้แรงงานหนักเป็นเวลา 15 ปีจากข้อหาพยายาม “ล้มล้าง” ระบอบคอมมิวนิสต์
ทั้งนี้ ในอดีตมีชาวต่างชาติหลายต่อหลายคนที่เป็นผู้สอนศาสนาได้ถูกจับกุมในรัฐคอมมิวนิสต์ที่ปลีกตัวจากประชาคมโลกแห่งนี้
บางคนได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ หลังได้รับการแทรกแซงช่วยเหลือจากบุคคลสำคัญของสหรัฐฯ แต่ความพยายามขอปล่อยตัว แบ ให้เป็นอิสระจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จ
ก่อนหน้านี้ จอห์น ชอร์ต ชาวออสเตรเลียวัย 75 ปี ก็ถูกคุมขังนานเกือบ 2 สัปดาห์ จนกระทั่งถึงเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เขาเข้าไปเผยแพร่ใบปลิวทางศาสนาในกรุงเปียงยาง
ชอร์ต ถูกเนรเทศออกจากเกาหลีเหนือ หลังจากยอมลงนามในเอกสารขออภัยและ “สารภาพผิด” อย่างละเอียด