ศาลแดนกระทิงดุตั้งข้อหา “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” กับ “เจ้าหญิงกริสตินา” และพระสวามีอย่างเป็นทางการ

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ผู้พิพากษาศาลสเปนตั้งข้อหาฉ้อโกง กับเจ้าหญิงกริสตินาแห่งบอร์บอน พระขนิษฐภคินีในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 กษัตริย์องค์ใหม่ของสเปน และพระสวามีอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ (25 มิ.ย.) ในการสืบสวนคดีคอรัปชัน เพื่อเปิดทางให้กับการพิจารณาคดี ที่อาจสร้างความด่างพร้อยให้แก่ราชวงศ์แดนกระทิงดุยิ่งขึ้นไปอีก

ศาลจังหวัดปัลมา เด มายอร์กา ได้ตั้งข้อหาฉ้อโกง และฟอกเงิน กับเจ้าหญิงกริสตินาพระชันษา 49 ปี โดยเป็นการพิพากษายืนตามข้อกล่าวหาเดิม ซึ่งกลุ่มสหภาพแรงงานขวาจัด ได้ยื่นฟ้องร้องเจ้าหญิงกริสตินา หลังเจ้าหน้าที่สรรพากรไม่ยอมยื่นฟ้องดำเนินคดีใดๆ กับเจ้าหญิง ซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนท้ายๆ ก่อนที่จะมีการเปิดฉากการพิจารณาคดีทางอาญา

อินากี อูร์ดันการิน พระสวามีของเจ้าหญิง และอดีตผู้ร่วมทุนทางธุรกิจถูกกล่าวหาว่า ยักยอกเงิน 6 ล้านยูโร (ราว 265 ล้านบาท) ผ่านกองทุนสาธารณะที่อูร์ดันการินเป็นประธานสถาบัน และเจ้าหญิงกริสตินาทรงเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหาร ในขณะเดียวกัน พระองค์ทรงร่วมทุนกับพระสวามีเปิดบริษัทเอย์ซูน ซึ่งทางการสเปนสงสัยว่าถูกใช้บังหน้าเป็นแหล่งฟอกเงิน ด้วยเหตุนี้ขั้นตอนการพิจารณาคดีจึงจะมุ่งประเด็นไปที่วิธีการดำเนินธุรกิจของอูร์ดันการิน

ผู้พิพากษา โฆเซ กัสโตร มีคำตัดสินเปิดทางให้ยื่นอุทธรณ์ ก่อนเปิดฉากการพิจารณาคดีเช่นนี้ เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังสมเด็จพระราชาธิบดี ฆวน การ์โลส ทรงสละราชสมบัติให้แก่ เจ้าชายเฟลิเป มกุฎราชกุมารผู้ทรงมีพระชนมายุ 46 พรรษา เพื่อกอบกู้ภาพพจน์ให้แก่ราชวงศ์ซึ่งตกเป็นข่าวฉาว ในเวลาที่สเปนกำลังเผชิญสภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ก่อนหน้านี้ อัยการฝ่ายปราบปรามการคอรัปชันได้ออกมาคัดค้านคำตัดสินของผู้พิพากษาที่ระบุพระนาม เจ้าหญิงกริสตินา ในฐานะผู้ต้องสงสัยอย่างชัดเจน โดยโต้แย้งว่ายังมีหลักฐานสนับสนุนไม่เพียงพอ

ทั้งนี้ ศาลจังหวัดปัลมา เด มายอร์กา คือผู้ที่จะตัดสินชี้ขาดว่าจะเปิดฉากการพิจารณาคดีผู้ต้องสงสัยหรือไม่ ภายหลังมีการยื่นอุทธรณ์แล้ว

อย่างไรก็ตาม หากศาลพิพากษายืนตามผลการไต่สวน เจ้าหญิงกริสตินาจะทรงเป็นพระบรมวงศานุวงศ์องค์แรกในหน้าประวัติศาสตร์ราชวงศ์สเปนที่ทรงประทับในคอกจำเลยคดีอาญา