เอเอฟพี - ทางการแดนภารตะระบุว่า เกิดเหตุรถไฟโดยสารตกราง ทางภาคตะวันออกของอินเดียวันนี้ (25 มิ.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน ภายหลังต้องสงสัยกันว่ารางรถไฟอาจถูกลอบวางระเบิด
รถด่วนขบวนราชธานีที่มีตู้โดยสารทั้งหมด 12 ตู้ และแล่นออกมาจากกรุงนิวเดลี เพื่อมุ่งหน้าไปยังรัฐอัสสัมทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ตกรางเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 03.30 น.ในเมืองไทย) ที่เขตศรันย์ ในรัฐพิหาร
อรุณอินทรา กุมาร ประธานฝ่ายบริหารการรถไฟกล่าวกับสำนักข่าว “เพรส ทรัสต์ ออฟ อินเดีย” (พีทีไอ) ว่า “จากการสันนิษฐานเบื้องต้น สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการก่อวินาศกรรม รถไฟอาจตกรางเพราะเกิดระเบิดที่รางรถไฟ”
ก่อนหน้านี้ กลุ่มกบฏนิยมลัทธิเหมาอินในอินเดียได้เรียกชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อประท้วงกองกำลังความมั่นคงของอินเดีย
สัตถนันทา โกว์ดา รัฐมนตรีการรถไฟกล่าวว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้รถไฟตกราง
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “จนถึงตอนนี้เรายังไม่ทราบอะไรมากนักเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้รถด่วนราชธานีตกราง แต่ที่แน่ๆ กบฏนิยมลัทธิเหมาเคยออกมาเรียกร้องให้หยุดเดินรถ”
ผู้กำกับการตำรวจ สุธี กุมาร ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสกล่าวว่า ได้สั่งการให้สืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียด พร้อมกับระบุเพิ่มเติมว่า “ความผิดพลาดทางเทคนิค” ก็อาจเป็นสาเหตุได้เช่นกัน
หากสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการก่อเหตุของกลุ่มนิยมลิทธิเหมาจริง ก็จะกลายเป็นการก่อเหตุไม่สงบครั้งแรกนับตั้งแต่ นายกรัฐมนตรี นเรนธรา โมดี จากพรรคภารติยะชนตะ (บีเจพี) พรรคการเมืองฝ่ายขวาของอินเดียขึ้นมาดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว หลังสามารถช่วงชิงชัยชนะในการเลือกตั้งมาจากพรรคคองเกรสได้สำเร็จ
ทั้งนี้ พื้นที่หลายจุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และภาคกลางของแดนภารตะ เป็นต้นว่า รัฐจัณฑีครห์ โอริสสา พิหาร ชาร์คันด์ และมหาราษฏระ ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากการก่อเหตุไม่สงบของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน
กบฏจำนวนมากกล่าวว่า พวกเขากำลังต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจเพื่อเรียกร้องสิทธิในที่ดิน อาชีพ และสิทธิอื่นๆ ให้แก่บรรดากลุ่มชนเผ่าที่ยากจน
ทั้งนี้ กลุ่มกบฏนิยมลัทธิเหมาในอินเดียได้ก่อเหตุสังหารประชาชนไปแล้วหลายพันชีวิต