เอเอฟพี – ภาพวาด “วอเตอร์ ลิลลีส์” (บัวสาย) ที่มีความเป็นเอกลักษณ์จากฝีมือการวาดของ โคลด โมเนต์ จิตรกรชาวฝรั่งเศส ได้ถูกขายออกในราคา 31,7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( ราว 1,752 ล้านบาท) ที่การประมูลในกรุงลอนดอนเมื่อวานนี้(23) ซึ่งนับเป็นผลงานที่ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติการจำหน่ายภาพวาดของจิตรกรเลื่องชื่อคนนี้
ภาพวาดปี 1906 ที่มีชื่อว่า “นิมเฟียส” ซึ่งถูกขายให้กับผู้ประมูลที่ไม่ประสงค์ออกนาม เคยเป็นส่วนหนึ่งของงานแสดงศิลปะต้นแบบ ซึ่งจัดขึ้นที่หอศิลป์ ดูรอง-รูเอล ในกรุงปารีสเมื่อปี 1909 เพื่อเผยโฉมบรรดาผลงานรูปดอกบัวของโมเนท์
ผลงานชิ้นเอกแนวอิมเพรสชันนิสต์ที่สะท้อนตัวตนของจิตรกรอย่างชัดเจนชิ้นนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นของ พอล ดูรอง-รูเอล ผู้ประกอบกิจการซื้อขายงานศิลปะชาวฝรั่งเศส และอยู่ในคลังสะสมส่วนตัวตลอดช่วงชีวิตของเขา
หลังจากนั้นมา ภาพนี้ก็ถูกพาเดินสายจัดแสดงในหอศิลป์ชั้นนำทั่วโลก รวมไปถึง พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ในรัฐนิวยอร์ก และ พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่แห่งชาติในกรุงปารีส
ภาพวาด “เลอ บาสแซง โอ นิมเฟียส ” (สระบัวสาย) จากในชุดผลงานเดียวกัน ยังคงเป็นผลงานของโมเนต์ที่ทำยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 80.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2,600 ล้านบาท) ในการจัดประมูลของบริษัท คริสตีส์ ในกรุงลอนดอนเมื่อปี 2008
ชุดผลงานสีน้ำมันราว 250 ชิ้น ซึ่งกลายเป็นแนวทางหลักที่โมเนต์ให้ความสนใจในช่วง 30 ปีสุดท้ายของเขานั้น นับว่าเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการวิวัฒนาการของศิลปะสมัยใหม่และถือเป็นความสำเร็จสูงสุดของจิตรกรชาวเมืองน้ำหอมผู้นี้
งานศิลปะอีกชิ้นหนึ่งที่ขายในการประมูลงานศิลปะสมัยใหม่และอิมเพรสชันนิสต์ของสถาบันประมูล โซธบีส์ คือ ภาพวาด ”คอมโพซิชัน วิธ เรด , บลู แอนด์ เกรย์ ” (การจัดวางองค์ประกอบด้วย สีแดง , ฟ้า และ เทา) ซึ่งเป็นผลงานของ ปีต โมนดรียาน จิตรกรชาวดัตช์ ที่ได้ยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 2 เท่าที่เคยมีการประมูลผลงานของเขามาเช่นกัน
ผลงานปี 1927 ซึ่งถูกขายให้กับบุคคลผู้ไม่ประสงค์ออกนามที่ให้ราคาที่ 15.2 ล้านปอนด์ (หรือราว 496 ล้านบาท) ชิ้นนี้ มีลักษณะโดดเด่นที่การผสมผสานสีสันอย่างยอดเยี่ยม และเป็นรูปที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ
ภาพวาดชิ้นนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นสมบัติของ เอินส์ท เบเยแลร์ ผู้ซื้อขายงานศิลปะชื่อดัง และยังเคยถูกนำไปจัดแสดงในงานนิทรรศการผลงานศิลปะย้อนยุคของโมนดรียาน
บรรดาผลงานของโมนดรียาน ซึ่งประกอบด้วยลักษณะเด่นของเส้นสีดำตรง , การจัดวางองค์ประกอบที่สมดุล , และแถบสีสันต่างๆ เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบแฟชันมากมาย รวมถึง อีฟ แซงต์ โลรองต์ (Yves Saint Laurent)