เอเอฟพี – นักวิทยาศาสตร์แอนตาร์กติกาเตือนวันนี้(18) การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาที่ทวีปน้ำแข็งแห่งนี้ตลอดจนการตัดถนนและสร้างสนามบินเพื่ออำนวยความสะดวยต่อทีมวิจัยกำลังคุกคามสภาพแวดล้อมที่เปราะบาง และเรียกร้องให้มีการป้องกันที่ดีกว่านี้
จากตัวเลขทางธุรกิจชี้ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนแอนตาร์กติกาได้เพิ่มขึ้นจากที่เคยน้อยกว่า 5,000 คน ในปี 1990 มาอยู่ที่ราว 40,000 ต่อปี และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ปลอดน้ำแข็ง ซึ่งมีอยู่ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ของแอนตาร์กติกา
สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการวิจัยก็กำลังถูกสร้างเพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน อาทิเช่น ถนนหนทาง , คลังน้ำมัน , รันเวย์ โดยสร้างขึ้นในพื้นที่ปลอดน้ำแข็งต่างๆ ที่มีเนื้อที่เล็กนิดเดียว
พื้นที่เหล่านี้ซึ่งเป็นที่อยู่ของพืชและสัตว์ป่าส่วนใหญ่ในแอนตาร์กติกา แต่กลับเป็นพื้นที่ที่ได้รับการปกป้องน้อยที่สุดในโลก การวิจัยที่นำโดยโครงการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (NERP) และหน่วยงานแอนตาร์กติกของออสเตรเลียที่ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจากรัฐบาลแดนจิงโจ้ ระบุ
“คนจำนวนมากคิดว่าแอนตาร์กติกา ปลอดจากจากภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพ เพราะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและไม่มีคนอาศัยอยู่” จัสติน ชอว์ จาก NERP กล่าวในงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร PloS Biology
“อย่างไรก็ดี งานวิจัยของเราผยให้เห็นว่า มีสิ่งที่คุกตามต่อความหลายหลายทางชีวภาพของแอนตาร์กติกอยู่เหมือนกัน”
“พื้นที่ส่วนใหญ่ของแอนตาร์กติกาปกคุลมไปด้วยน้ำแข็ง และมีพื้นที่ปลอดน้ำแข็งถาวรแค่ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์” เธอ กล่าวเสริม
“มีพื้นที่ปลอดน้ำแข็งเพียงร้อยละ 1.5 เท่านั้นที่เป็นของ “พื้นที่ปกป้องพิเศษแอนตาร์กติก” (Antarctic Specially Protected Areas) ภายใต้ระบบสนธิสัญญาแอนตาร์กติก (Antarctic Treaty System) อย่างไรก็ตาม ผืนดินปลอดน้ำแข็งคือพื้นที่ที่ความหลากหลายทางชีวภาพส่วนใหญ่ของที่นี่เกิดขึ้น”
มีอาณาเขตปลอดน้ำแข็งอยู่ 5 แห่งที่ไม่ได้รับการปกป้องใดๆเลย ขณะที่พื้นที่ปกป้องทั้งหมด 55 แห่งของทวีปนี้อยู่ใกล้กับสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมมนุษย์
สตีเวน คราวน์ จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชีวภาพของมหาวิทยาลัยโมนาช ผู้ร่วมการวิจัยอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า บรรดาพื้นที่ปลอดน้ำแข็งของที่นี่ประกอบด้วยระบบนิเวศต่างๆที่ไม่มีความซับซ้อน เนื่องจากแอนตาร์กติกามีความหลากหลายทางสายพันธุ์ที่ค่อนข้างต่ำ
สิ่งนี้เองที่ทำให้สัตว์ป่าพันธุ์พื้นเมืองและพืชของที่นี่เสี่ยงอย่างยิ่งต่อการถูกรุกรานโดยสายพันธุ์จากภายนอก ซึ่งอาจถูกนำเข้ามาโดยกิจกรรมของมนุษย์
“แอนตาร์กติกาถูกรุกรานโดยพืชและสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญ้าและแมลงชนิดต่างๆจากทวีปอื่น” เขา กล่าว
งานวิจัยชิ้นนี้ระบุว่า ระดับการป้องกันในปัจจุบันนั้นยังไม่ดีพอไม่ว่าวัดด้วยเกณฑ์ใดก็ตาม สอดรับกับคำพูดของชอว์ที่บอกว่า ในภาวะที่ธุรกิจท่องเที่ยวกำลังเฟื่องฟูเช่นนี้ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องมีการป้องกันที่รัดกุมมากขึ้น
“นอกจากนี้ เรายังต้องรับประกันให้ได้ว่า พื้นที่ปกป้องแอนตาร์กติกจะไม่ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมมนุษย์ เช่น มลพิษ การเหยียบย่ำ หรือสายพันธุ์รุกราน”
แอนตาร์กติกาถูกขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเขตแดนสุดท้ายสำหรับนักเดินทางที่รักการผจญภัย
ทั้งนี้ ผู้มาเยือนทวีปน้ำแข็งแห่งนี้ส่วนมากเดินทางมาทางทะเล บางคนถึงกับยอมควักกระเป๋าถึง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 649,400 บาท) เพื่อกระท่อมหรูในช่วงยอดนิยมนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม และที่นี่ยังเป็นตลาดที่คึกคักสำหรับเที่ยวบินชมทิวทัศน์