เอเอฟพี - อเล็กซันเดียร์ กาลุชคา รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาเขตสหพันธ์ตะวันออกไกลของรัสเซีย เปิดเผยวันนี้ (5 มิ.ย.) ว่า แดนหมีขาวกำลังมีความคาดหวังที่จะได้พัฒนาทรัพยากรแร่ธาตุของเกาหลีเหนือ ภายหลังยกเลิกหนี้ให้แก่ชาติเอเชียอันโดดเดี่ยวแห่งนี้
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้ลงนามรับรองกฎหมายฉบับหนึ่ง เพื่อยกเลิกหนี้ 90 เปอร์เซ็นต์ ที่เกาหลีเหนือเคยกู้ยืมจากรัสเซีย นับตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียตเป็นเงินทั้งสิ้น 1.094 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3.57 แสนล้านบาท)
เกาหลีเหนือจะต้องชำระหนี้ที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์ ในเวลา 20 ปี
“สิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือเจริญงอกงามในอนาคต หนี้ก้อนนี้ที่เคยกั้นกลางระหว่างเรา ตอนนี้หายไปแล้ว” สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานคำพูดของกาลุชคา ภายหลังการหารือเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ ที่เมืองวลาดิวอสต็อก ในเขตสหพันธ์ตะวันออกไกลของรัสเซีย
กาลุชคากล่าวว่า ทั้งสองฝ่าย “ได้พูดคุยกันถึงโครงการอันเป็นรูปธรรมในเขตทรัพยากรแร่ธาตุ ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่ที่มีทรัพยากรแร่ธาตุ และการสำรวจทางธรณีวิทยา”
เขากล่าวว่า ทั้งสองประเทศได้ “ร่วมหารือกันว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่เกาหลีเหนือจะใช้วิธีเปิดทางให้บริษัทรัสเซียเข้าสู่แหล่งทรัพยากรแร่ธาตุของเกาหลีเหนือ เพื่อแลกเปลี่ยนกับสินค้าที่ได้รับ หรือเพื่อเป็นการร่วมลงทุนกับรัสเซีย”
กาลุชคา กล่าวว่า เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เกาหลีเหนือเสนอจะอนุญาตให้นักลงทุนและเจ้าหน้าที่ของรัสเซียสามารถใช้อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ ตลอดจนได้รับการอะลุ่มอล่วยให้เดินทางเข้าเกาหลีเหนือได้ง่ายขึ้น
กาลุชคา กล่าวว่า “พวกเขาจะอนุญาตให้เหล่านักลงทุนและเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย สามารถใช้วิธีติดต่อสื่อสารที่ทันสมัย กล่าวคือสามารถใช้อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือได้”
กาลุชคา กล่าวว่า บริษัท “เบสิก เอเลเมนต์” ของ โอเลค เดรีปาสกา ซึ่งเป็นนักธุรกิจผู้มีอิทธิพลในรัสเซียตกลงที่จะพิจารณาการแผนการสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ในกรุงเปียงยาง และภายในสิ้นปีนี้กำลังจะได้ข้อสรุปว่า จะขุดเหมืองทองแดง และถ่านหินแอนทราไซต์ในเกาหลีเหนือหรือไม่
กาลุชกา กล่าวว่า เมื่อปี 2013 รัสเซียและเกาหลีเหนือได้ทำการค้าร่วมกันเป็นมูลค่า 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3.7 พันล้าน) เท่านั้น
เกาหลีเหนือเคยมีสายสัมพันธ์อันอบอุ่นกับสหภาพโซเวียตที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ขณะที่ตอนนี้รัสเซียก็ยังสามารถรักษาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างแนบแน่น เพียงแต่สนับสนุนให้มหาอำนาจชาติตะวันตกยับยั้งโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเปียงยาง
