รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ภูเขาไฟ “พาฟลอฟ” ในมลรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ เกิดการปะทุครั้งใหม่ในวันอังคาร (3) เป็นเหตุให้มีกลุ่มควันและเถ้าถ่านพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าคิดเป็นความสูงมากกว่า 7.3 กิโลเมตร ขณะที่ทีมนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของรัฐบาลอเมริกัน ต้องประกาศยกระดับการเตือนภัยภูเขาไฟระเบิดขึ้นสู่ระดับ “สีแดง” ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นหนแรกในรอบ 5 ปี
รายงานข่าวล่าสุดซึ่งอ้างศูนย์สังเกตการณ์ภูเขาไฟแห่งอะแลสกา (เอวีโอ) ระบุว่า ภูเขาไฟพาฟลอฟ ความสูง 2,515 เมตรซึ่งอยู่ห่างจากเมืองแองเคอริจไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 966 กิโลเมตรได้เกิดการปะทุครั้งใหม่ เป็นเหตุให้มีกลุ่มควันและเถ้าถ่วยพวยพุ่งออกจากปากปล่องเป็นจำนวนมาก แม้จะยังไม่ส่งผลกระทบมากนักต่ออุตสาหกรรมการบิน
คำแถลงของเอวีโอระบุว่า ทางศูนย์มีความจำเป็นต้องยกระดับเตือนภัยขึ้นสู่ระดับสีแดง (red alert) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา เนื่องจากพบหลักฐานทางธรณีวิทยาและภูเขาไฟวิทยาที่บ่งชี้ว่าภูเขาไฟพาฟลอฟอาจเกิดการระเบิดในระดับที่รุนแรงขึ้น ไม่ต่างจากการระเบิดของภูเขาไฟ “เมาท์ รีเดาต์” เมื่อ 5 ปีก่อน
ด้านมิเชลล์ คูมบ์ส ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ดังกล่าวออกมาเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่การประทุรอบล่าสุดนี้ของภูเขาไฟพาฟลอฟอาจดำเนินไปแบบต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน แต่เชื่อว่าการปะทุของมันจะไม่มีผลกระทบต่อประชาชนมากนัก เนื่องจากที่ตั้งของภูเขาไฟลูกนี้อยู่ห่างไกลจากเขตชุมชนนับร้อยกิโลเมตร
ทั้งนี้ ภูเขาไฟพาฟลอฟตั้งอยู่บนเส้นทางการบินของหลายสายการบินที่ให้บริการในเส้นทางระหว่างทวีปอเมริกาเหนือและเอเชีย แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเที่ยวบินต่างๆ จะยังคงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ตราบใดที่เถ้าถ่านและกลุ่มควันจากการปะทุของภูเขาไฟลูกนี้ยังคงมีระดับความสูงต่ำกว่า 9.1 กิโลเมตร หรือราว 30,000 ฟุต ซึ่งเป็นระดับที่เครื่องบินโดยสารส่วนใหญ่ทำการบิน