เอเอฟพี - หน่วยกู้ภัยรัสเซียสามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้ 12 ศพ ขณะยังมีผู้สูญหายอีก 3 ราย ภายหลังเฮลิคอปเตอร์ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของท้องถิ่นเกิดประสบอุบัติเหตุตกลงไปในทะเลสาบ บริเวณพื้นที่ห่างไกล ทางตอนเหนือของแดนหมีขาว
เฮลิคอปเตอร์ Mi-8 ซึ่งนำส่งผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 17 ชีวิต โดยในจำนวนนี้รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของท้องถิ่น และนักธุรกิจได้ประสบอุบัติเหตุตกในทะเลสาบมูโนเซโร ทางเหนือของเขตการปกครองมูร์มันสค์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (31 พ.ค.) โดยพบผู้รอดชีวิตเพียง 2 คน
สำนักข่าวอิตาร์-ทาสส์ รายงานคำพูดของ วิกตอร์ ยัตซุตเซนโก ประธานศูนย์การจัดการวิกฤตแห่งชาติ ของกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซีย ซึ่งระบุว่า “มีผู้โดยสารมากับเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ทั้งหมด 17 คน โดยเจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากทะเลสาบได้ 12 ศพ แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของอีก 3 คนที่เหลือ”
ยัตซุตเซนโก กล่าวว่า ผู้รอดชีวิตทั้งสองคน ซึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพ้นขีดอันตรายแล้ว ภายหลังที่เจ้าหน้าที่พบพวกเขาลอยอยู่ในทะเลสาบ โดยที่เข็มขัดนิรภัยยังคงรั้งตัวพวกเขาไว้กับเบาะที่นั่ง
สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนโวสตี รายงานโดยอ้างคำพูดของแหล่งข่าวจากฝ่ายบังคับใช้กฎหมายที่ระบุว่า ผู้เสียชีวิต 10 จาก 12 คนได้รับการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว ซึ่ง 1 ในจำนวนนี้คือ เซียร์เกย์ สโกโมโรคอฟ รองผู้ว่าการเขตปกครองมูร์มันสค์
หน่วยกู้ภัยชี้แจงกับ อาร์ไอเอ โนโวสตรีว่า ภารกิจค้นหาผู้สูญหายได้หยุดชะงักลง เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย โดยเจ้าหน้าที่เผชิญกับคลื่นลมแรง
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ลำนี้มีลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 18 คน แต่มีการแก้ไขยอดเหลือ 17 คน เนื่องจากมีลูกเรือคนหนึ่งซึ่งเป็นจ้าหน้าที่เทคนิคยกเลิกการเดินทาง
เจ้าหน้าที่สืบสวนสันนิษฐานว่า อุบัติเหตุครั้งนิ้อาจเกิดขึ้นจากเครื่องยนต์อากาศยานขัดข้อง และสภาพอากาศเลวร้าย
คณะกรรมาธิการสืบสวนระบุในคำแถลงว่า “นักบินเผชิญอุปสรรคด้านสภาพอากาศ ทำให้เขาสูญเสียการควบคุมอากาศยาน ส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์ตกลงไปในน้ำ”
“ฟอสอโกร” ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตปุ๋ยฟอสเฟตอันดับต้นๆ ของโลกระบุว่า บริษัทสาขาของตนแห่งหนึ่งได้เป็นธุระจัดหาในการเดินทางครั้งนี้ เพื่อช่วยให้บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในท้องถิ่นพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในเขตการปกครอง และดึงดูดเหล่านักลงทุนเข้ามาในพื้นที่
