เอเอฟพี/มาร์เกตวอชต์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นวานนี้ (29) จากข้อมูลคลังเบนซินสำรองของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทได้แรงหนุนจากการแย่งซื้อบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ผิดกับทองคำที่ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติอต่อกัน จากสัญญาอุปสงค์ที่อ่อนแอลงทั่วโลก
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 86 เซ็นต์ ปิดที่ 103.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 16 เซ็นต์ ปิดที่ 109.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดนิวยอร์กเคลื่อนไหวในแดนบวก หลังจากรายงานคลังน้ำมันดิบสำรองรายสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ พบสต๊อกน้ำมันเบนซินลดลงถึง 1.8 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ถึงสัญญาณการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ก่อนฤดูกาลขับขี่ช่วงวันหยุดหน้าร้อนของประเทศ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (29) ปิดบวกพอสมควร ขณะที่การต่อสู้ระหว่าง 2 บริษัทแปรรูปเนื้อสัตว์รายใหญ่ ในการแย่งซื้อฮิลล์เชียร์ แบรนด์ส ผู้ผลิตไส้กรอก ช่วยผลักให้เอสแอนด์พี 500 แตะระดับสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 65.50 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,698.68 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.25 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,920.03 จุด สูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ แนสแดค เพิ่มขึ้น 22.87 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,247.95 จุด
หุ้นของฮิลล์เชียร์ แบรนด์ส ทะยานขึ้นถึงร้อยละ 17.7 หลังจากไทสัน ฟูดส์ ยื่นข้อเสนอซื้อบริษัทเป็นเงิน 6,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหนือกว่า 6,400 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ทาง พิลกริมส์ ไพรด์ คอร์ปอเรชัน บริษัทย่อยของจีบีเอส ยักษ์ใหญ่ของบราซิล ยื่นให้เมื่อวันอังคาร (27)
ศึกแย่งชิงในภาคอุตสาหกรรมอาหารดังกล่าว กระตุ้นความคึกคักแก่นักลงทุนที่เมินรายงานข่าวของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เผยว่าเศรษฐกิจอเมริกาในไตรมาสแรก หดตัวอย่างน่าประหลาดใจร้อยละ 1.0
ส่วนราคาทองคำวานนี้ (29) ปิดลบเป็นวันที่ 4 วัน จากสัญญาณเตือนทางเทคนิค และความเสี่ยงด้านอุปสงค์ทั่วโลกที่ปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,257.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์