เอเจนซีส์ - สื่อนอก เช่น mashable.com รายงานว่า เมื่อวานนี้ (27 พ.ค.) พล.ต. พลภัทร วรรณภักตร์ เลขานุการกองทัพบก ได้เรียก “วาสนา นาน่วม” จากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ และ “ศุภฤกษ์ ธงไชยฤทธิ์” จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ สองนักข่าวสายทหารระดับต้นของไทยไปพบเพื่อสั่งให้เปลี่ยนการตั้งคำถามจากที่เป็นลักษณะต้อนให้จนมุมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่นอกจากเป็นผู้บัญชาการกองทัพบกแล้ว ยังควบตำแหน่งผู้นำสูงสุดทางบริหารและนิติบัญญัติในฐานะหัวหน้าคณะ คสช.อีกด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ฝากข้อความกล่าวเตือนนักข่าวทั้งสองคน น.ส.วาสนา นาน่วม และนายศุภฤกษ์ ธงไชยฤทธิ์ ผ่านเลขานุการกองทัพบกเมื่อวาน (27) ในเวลา 14.00 น.ว่า “การตั้งคำถามต้องดูตามความเหมาะสมเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นถึงผู้กุมอำนาจของประเทศด้านบริหารประเทศและนิติบัญญัติพร้อมกันในขณะนี้ ดังนั้น ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะตอบคำถามสื่อจึงต้องใคร่ครวญเสียก่อน พล.ต.พลภัทรกล่าว บางกอกโพสต์รายงาน
นอกจากนี้ พล.ต.พลภัทรกล่าวกับนักข่าวทั้งสองต่อไปว่า “การตั้งคำถามเชิงรุกไม่เป็นสิ่งที่ควร ดังนั้นทางกองทัพจึงขอความร่วมมือไม่ให้ตั้งคำถามเชิงก้าวร้าวเช่นนั้นอีก และควรจะเข้าใจเจตนารมณ์ของหัวหน้าคณะ คสช.ที่ทำเพื่อต้องการแก้ปัญหาความขัดแย้งของชาติ”
พล.ต.พลภัทรกล่าวต่อไปว่า “อันที่จริงสื่อควรให้กำลังใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” โดยเลขานุการกองทัพบกอธิบายว่า “จากสถานการณ์ปัจจุบันการกระทำใดๆ ที่ล้วนมีผลต่อความพยายามในการแก้ปัญหาชาติและความเชื่อมั่นในกองทัพไทยสามารถเอาผิดตามกฎหมายได้ แต่ทางกองทัพยังไม่ต้องการทำเช่นนั้น”
ทั้งนี้ นักข่าวสายทหารทั้งสองคนได้ตั้งคำถามเรื่องนายกรัฐมนตรีคนใหม่กับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และความคิดที่ พล.อ.ประยุทธ์จะแต่งตั้งตัวเองขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย และมีกรอบเวลาในการกำหนดจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่หรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2014ในวันที่เขาทำรัฐประหาร และได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการคณะ สคช.ในวันจันทร์ (26) เพื่อความสงบของประเทศ ดิ ภูเก็ตนิวส์รายงาน
ชั่วโมงหลังการรัฐประหารสื่อต่างๆ ในประเทศถูกปิด และเปิดเพลงมาร์ชของกองทัพแทน โดยโฆษกกองทัพไทยประกาศว่า สื่อโทรทัศน์ วิทยุ ดาวเทียม และเคเบิลทีวีต้องหยุดออกอากาศรายการตามปกติ และเผยแพร่แต่การประกาศจากคณะคสช.เท่านั้นจนกว่าจะมีคำสั่งอื่นเปลี่ยนแปลง
รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น แคร์รี ได้แสดงความวิตกในวันพฤหัสบดี (22) ถึงการที่สื่อต่างๆ ในไทยถูกปิด พร้อมกับเรียกร้องให้เคารพสิทธิเของมนุษย์และเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน เช่น เสรีภาพของสื่อ