เอเอฟพี - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนชาวอเมริกันที่พำนักอยู่ในลิเบียให้รีบเดินทางออกจากประเทศดังกล่าว “ในทันที” วานนี้ (27 พ.ค.)
คำเตือนล่าสุดมีขึ้นท่ามกลางเหตุการณ์ความไม่สงบและการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ จนทำให้ลิเบียตกอยู่ในสภาวะสับสนวุ่นวาย
“เนื่องจากสถานการณ์ไม่สู้ดี กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ลดกำลังเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติภารกิจอยู่ที่สถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงตริโปลี และหากมีเหตุฉุกเฉินก็จะสามารถให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันในลิเบียได้อย่างจำกัดเท่านั้น” ประกาศเตือนระบุ
“ทางกระทรวงฯ คาดว่าชาวต่างชาติในลิเบีย โดยเฉพาะพลเมืองอเมริกัน น่าจะเป็นผู้ที่เกี่ยวพันกับรัฐบาลสหรัฐฯ หรือกลุ่มเอ็นจีโอเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนนักท่องเที่ยวทั่วไปควรตระหนักว่าท่านอาจตกเป็นเหยื่อลักพาตัว, ถูกโจมตีอย่างรุนแรง หรือถูกสังหาร”
“ชาวอเมริกันที่ยังพำนักอยู่ในลิเบียควรใช้ความระมัดระวังขั้นสูงสุด และรีบเดินทางออกจากประเทศดังกล่าวในทันที”
เมื่อวานนี้ (27) สหรัฐฯ ประกาศส่งเรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก ยูเอสเอส บาทาน พร้อมนาวิกโยธิน 1,000 นายไปประจำการที่นอกชายฝั่งลิเบีย เพื่อเตรียมพร้อมในกรณีที่ต้องมีการอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ออกมา
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมซึ่งไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า เรือ ยูเอสเอส บาทาน จะประจำการอยู่ที่นั่น “เพียงไม่กี่วัน” และเป็นเพียงมาตรการป้องกันความเสี่ยงเท่านั้น
นอกจากนาวิกโยธิน 1,000 นายแล้ว เรือ ยูเอสเอส บาทาน ยังมีเฮลิคอปเตอร์ประจำการอยู่อีกหลายลำ
ทั้งนี้ วอชิงตันยังมีนาวิกโยธินราว 250 นาย, เครื่องบินออสเปรย์ชนิดปรับใบพัด (tilt-rotor) และเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงอีก 3 ลำ อยู่ที่ฐานทัพอากาศซิโกเนลลาในอิตาลี
มาตรการปกป้องพลเมืองอเมริกันมีขึ้นหลังเกิดเหตุโจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองเบงกาซีเมื่อปี 2012 ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่อเมริกันเสียชีวิตไป 4 นาย รวมถึงเอกอัครราชทูต คริส สตีเวนส์
