xs
xsm
sm
md
lg

“รัฐสภายูเครน”ยกเลิกปฎิบัติการทหารในยูเครนตะวันออก “สหรัฐฯ” อ้างผู้สื่อข่าวรัสเซีย ที่ถูกจับมีขีปนาวุธ- ยันทหารรัสเซียยังอยู่ครบใกล้ชายแดนยูเครน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(บน)อาวุธต่อต้านจรวดขีปนาวุธที่ถูกพบจากท้ายรถของนักข่าวรัสเซีย (ล่าง)กลุ่มแบ่งแยกตนเองยูเครนตะวันออกถืออาวุธต่อต้านขีปนาวุธที่จุดตรวจ
เอพี/เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้รัฐสภายูเครนได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 252 เสียงรับรองบันทึกสันติภาพและการปรองดอง (Memorandum of Peace and Accord) เพื่อแก้วิกฤตยูเครนที่กำลังเกิดขึ้น ในขณะที่สหรัฐฯได้อ้างว่า นักข่าวของไลฟท์นิวส์ สื่อรัสเซียที่ถูกกองกำลังยูเครนควบคุมตัว 2 คนนั้นมมีอาวุธต่อต้านจรวดขีปนาวุธครอบครองเพื่อช่วยเหลือผู้ก่อการร้าย และขณะเดียวกันเคียฟไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวของRTเดินทางเข้ายูเครนเพื่อทำข่าวการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนที่จะมีขึ้นในปลายเดือนนี้ นอกจากนี้สหรัฐฯยังอ้างว่า ไม่มีสัญญาณการถอนกำลังทหารออกจากพรมแดนตามที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินอ้างก่อนหน้านี้



RT และสำนักข่าวอิตาร์ ทาสส์ สื่อรัสเซียรายงานว่า ในวันอังคาร(20) รัฐสภายูเครนได้มีมติด้วยคะแนนเห็นชอบ 252เสียง จากที่กำหนดเสียงขั้นต่ำ 226 เสียงในการรับรองรับรองบันทึกสันติภาพและการปรองดอง (Memorandum of Peace and Accord) และบันทึกนี้ยังเป็นตัวผลักดันเร่งให้เกิดการแก้รัฐธรรมนูญจากพื้นฐานที่ให้อำนาจรวมศูนย์อยู่ที่เคียฟ

“จากเสียง252เสียงของสมาชิกรัฐสภายูเครนเห็นชอบในการรับบันทึกสันติภาพและการปรองดองจากกำหนดขั้นต่ำ226 เสียง ที่มีเนื้อหาเน้นในการนำกฎหมายและการบังคับใช้ รวมไปถึงความปลอดภัยสาธารณะกลับคืนมาโดยการหยุดวิกฤตความรุนแรง และให้ผู้ที่มีส่วนในการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิในช่วงการประท้วงต้องได้รับการลงโทษ นอกจากนี้ให้มีการหยุดปฎิบัติการทหารต่อต้านก่อการร้ายในตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน และสั่งให้ทหารที่อยู่ในกองกำลังแนชันแนลการ์ดกลับสู่ต้นสังกัดเดิม” RT รายงาน

เคียฟได้เริ่มปฎิบัติการทหารทางตะวันออกตั้งแต่เดือนเมษายนทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนเพื่อรับมือการประท้วงที่แพร่ขยายไปทั่วพื้นที่ ซึ่งประชาชนได้ออกมาต่อต้านรัฐบาลรักษาการยูเครนและต้องการประกาศแยกตัวออกเป็นอิสระจากยูเครน

นอกจากนี้บันทึกฉบับนี้ยังเร่งเร้าให้มีการปฎิรูปรัฐธรรมนูญยูเครนอย่างฉับพลันเพื่อจะให้อำนาจการปกครองตนเองเพิ่มขึ้นแก่ส่วนภูมิภาค ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการเรียกร้องจากโดเนตสค์ และโลกานสค์ และยังมีการกำหนดให้ภาษายูเครนเป็นภาษาราชการของรัฐภายใต้รัฐธรรมนูญยูเครน แต่บันทึกได้ระบุว่ารัฐบาลยูเครนต้องคุ้มครองภาษาของคนกลุ่มน้อยเพื่อต้องการยกย่องภาษารัสเซียที่ใช้อย่างแพร่หลายในภาคตะวันออก แต่ไม่ยอมให้กำหนดให้เป็นหนึ่งในภาษาราชการภายใต้กฏหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ

ทั้งนี้ผู้ประท้วงในยูเครนตะวันออกไม่พอใจที่รัฐสภายูเครนในสมัยรัฐบาลรักษาการยูเครนต้องการแก้ไขไม่ประกาศให้ภาษารัสเซียเป็นภาษราชการตามที่อดีตประธานาธิบดียูเครน วิกเตอร์ ยานูโควิชได้เคยเสนอก่อนหน้านี้

นอกจากนี้บันทึกยังได้หนุนการเดินหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งถือเป็นสัฐลักษณ์ของเสถียรภาพ และเครื่องมือสำคัญในการลดอุณภูมิความตรึงเครียดความขัดแย้ง สำนักข่าวอิตาร์ ทาสส์รายงาน

และหลังจากที่มีการประกาศผ่านบันทึกสันติภาพและการปรองดองออกมา RT รายงานว่า รัสเซียกล่าวว่า หากยูเครนได้ใช้ทุกประเด็นในบันทึกเพื่อทำการปฎิรูปประเทศจริง ก็เท่ากับว่าเป็นการตอบรับเสียงเรียกร้องของมอสโกที่มีมานาน กริกอรี คาราซิน (Grigory Karasin) ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียคนที่ 1กล่าว อ้างอิงจาก RIA Novosti
โอเลก ซิดยากิน (Oleg Sidyakin) และ มาราต ไซเชนโก (Marat Saichenko) สองนักข่าวจากไลฟนิวส์
ในขณะที่เอเอฟพีรายงานว่า โอเลก ซิดยากิน (Oleg Sidyakin) และ มาราต ไซเชนโก (Marat Saichenko) สองนักข่าวจากไลฟนิวส์ สื่อรัสเซียถูกทหารแนชันแนลการ์ดของยูเครนจับกุมตัวได้ที่ครามาตอร์สค์ ทางตะวันออกของประเทศ โดยอ้างว่าใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ยูเครน เป็นผลให้รัสเซียเรียกร้องให้เคียฟปล่อยตัวนักข่าวทั้งสองนี้โดยเร็ว

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เกรแฮม ฟิลลิปต์ สัญชาติอังกฤษ นักข่าวของ RTถูกทหารแนชันแนลการ์ดจับกุมตัวด้วยเช่นกันที่ด่านตรวจในมาริอูโปล ทางตะวันออกของยูเครน ในช่วงเช้าเมื่อวานนี้(20) และได้ถูกนำตัวไปกรุงเคียฟเพื่อการสอบสวนต่อไป โดยRTเปิดเผยว่า ได้ติดต่อให้กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเพื่อช่วยเหลือฟิลลิปต์ ซึ่งอังกฤษรับปากจะพยายามหาทางช่วยเหลือทางการกงสุลต่อไป

ทั้งนี้ฟิลลิปต์ถูกสั่งให้ลบรูปทั้งหมดที่เขาได้ถ่ายพร้อมทั้งยึดโทรศัพท์มือถือในเงื่อนไขการปล่อยตัว แต่นักข่าวRTปฎิเสธ เขาจึงถูกจับกุมพร้อมทั้งถูกยึดเสื้อเกราะและหมวกนิรภัยที่สวมอยู่ แต่ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ยูเครนไม่ได้ทำร้ายร่างกายเขา ฟิลลิปต์เปิดเผยกับRT ก่อนที่จะขาดการติดต่อในอีก 6 ชม. ข้างหน้า

และในขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวRT ภาคภาษาอาหรับที่ได้เดินทางมาถึงกรุงเคียฟเพื่อเตรียมทำข่าวการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ พร้อมยังถูกส่งตัวกลับกรุงมอสโกภายใต้ข้อสงสัยที่นักข่าวไม่สามารถอธิบายได้ชัดแจ้งถึงเหตุผลการเดินทางมายังยูเครนถึงแม้นักข่าวคนนี้จะได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกลางเลือกตั้งยูเครนก่อนหน้านี้

ด้านสหรัฐฯ เจน ซากี โฆษกกระทรวงต่างประเทศได้ให้ความเห็นถึงนักข่าวไลฟนิวส์ 2 คนที่ถูกจับกุมว่า ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ยูเครน ได้มีการจับกุมตัวคนจำนวนหนึ่งที่มีเอกสารยืนยันปลอมอ้างว่าเป็นนักข่าวที่ออกโดยสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ที่ไม่มีตัวตน

“ตามรายงานพบว่า คนพวกนั้นครอบครองอาวุธต่อต้านขีปนาวุธแบบประกอบเองซ่อนอยู่ในที่เก็บของท้ายรถในช่วงเวลาจับกุม” ซากีกล่าว แต่เธอไม่เปิดเผยถึงจำนวนของอาวุธที่ยึดได้ โดยอ้างเพียงว่า ข้อมูลที่ได้มาจากรายงานและการสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองชาติ นอกจากนี้ ซากี ยังเสริมว่า “จะดำเนินการร้องเรียนในเรื่องที่มีนักข่าวจำนวนหนึ่งถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่รัสเซียในไครเมีย เพราะเป็นเรื่องผิดกฏหมายที่คุมขังสื่อสารมวลชนตามข้อร้องเรียนในวันก่อนหน้านี้(19)”
เกรแฮม ฟิลลิปต์ สัญชาติอังกฤษ นักข่าวของ RT
และเอพีได้รายงานว่า เพนตากอนออกมายืนยันในวันอังคาร(20) ว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการถอนกำลังทหารตามชายแดนยูเครนดังเช่นที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้

“ประธานาธิบดีปูตินให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งการให้กองกำลังเคลื่อนย้ายกลับเข้ากรมกองของตนเอง ซึ่งจากความเข้าใจของสหรัฐฯ หมายความว่า กองกำลังรัสเซียทั้งหมดต้องถูกถอนออกจากบริเวณชายแดนยูเครน แต่เรายังไม่เห็นสิ่งนั้น” พลเรือตรีจอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอนกล่าว

และเสริมว่า “ยังมีกำลังพลหลายหมื่นคนประจำการอยู่ สหรัฐฯยังไม่เห็นการเคลื่อนย้ายกำลังแต่อย่างใด” ทั้งนี้ นาโตได้ประเมินว่ามีทหารรัสเซียราว 40,000 คนประจำอยู่ที่ชายแดนยูเครน

นอกจากนี้เคอร์บีกล่าวว่า มีเพียงทหารรัสเซียจำนวนน้อยที่เคลื่อนไหวเข้าออกตามฐานประจำบริเวณนั้น นอกจากนี้เขายังประกาศว่า เรือรบสหรัฐฯ USS Vella Gulfจะเดินทางเข้าสู่ทะเลดำในปลายสัปดาห์นี้เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพในแถบนั้นเพื่อสนับสนุนพันธมิตรนาโตที่เผชิญหน้ากับสถานการณ์ตรึงเครียดในยุโรป
กำลังโหลดความคิดเห็น