เอเจนซีส์/เอพี – เกรแฮม ฟิลลิปส์ ผู้สื่อข่าวอิสระของ RT สื่อรัสเซีย รายงานว่า กองกำลังพิเศษแนชันแนลการ์ดของเคียฟยังเดินหน้าปฏิบัติการทหารเต็มรูปแบบในเมืองสลาเวียงสค์ และคราตอร์สค์ ทางตะวันออกของยูเครนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ยังได้ยินเสียงระเบิดและสาดกระสุนไปทั่วเมืองในวันอาทิตย์ (18) และมีผู้ประท้วงหลายร้อยคนหน้าสถานทูตยูเครนในกรุงโรม อิตาลี เมื่อวานนี้ (17) เรียกร้องให้ต่อต้านรัฐบาลชั่วคราวเคียฟที่เป็นเสมือนลัทธิฟาสซิสต์ได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐฯ
ทั้งนี้ พบว่า มีปฏิบัติการทหารเต็มรูปแบบที่เมืองเมืองสลาเวียงสค์ (Slavyansk) และคราตอร์สค์ (Kramatorsk) ที่อยู่ทางเหนือของเขตโดเนตสค์ ไมโรสลาฟ รูเดนโก (Miroslav Rudenko) ผู้นำสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ให้สัมภาษณ์กับ RIA Novostiสื่อรัสเซีย และเสริมว่า การต่อสู้ได้ยกระดับขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (18) เพราะทางแนชันแนลการ์ดของยูเครนพยายามเข้าทำลายจุดตรวจของกลุ่มปกป้องตนเองโดเนตสค์ ข้อมูลบาดเจ็บและการสูญเสียยังไม่ได้รับรายงาน
และเลขาธิการโฆษกนายกเทศมนตรีสลาเวียงสค์ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า มีการปะทะตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ (17)
ด้าน เกรแฮม ฟิลลิปส์ ผู้สื่อข่าวอิสระของ RT สื่อรัสเซีย รายงานว่า กองกำลังพิเศษยูเครนออกปฏิบัติการรอบนอกของสลาเวียงสค์ตลอดเวลา
“มีระเบิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีรายงานพบว่าแนชันแนลการ์ดของยูเครนกระจายอยู่ทุกทิศของเมอง” ฟิลลิปส์กล่าว และเสริมว่า “มีการสู้รบอย่างหนักในทางตะวันออกของเมือง ผมได้เดินทางไปจุดนั้นก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง และได้มีการปะทะด้วยอาวุธปืนเกิดขึ้นก่อนเวลา 8.00 น. เล็กน้อย เราได้รับรายงานว่า กองกำลังของยูเครนเคลื่อนที่ล้อมเมืองมาจากทุกทิศทางและได้รายงานว่า พวกเขาเข้าเมืองมาทางทิศใต้และทางเหนือ รวมไปถึงทางอากาศที่ครามาตอร์สค์ ซึ่งมีรายงานการปะทะระหว่างแนชันแนลการ์ดยูเครนและกลุ่มปกป้องตนเองที่นั่น”
นอกจากนี้ นักข่าวอิสระของ RT ยังชี้ว่า “มีเสียงระเบิดและการดวลปืนได้ยินลั่นทั่วทั้งเมือง และการปะทะด้วยอาวุธปืนเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่สลาเวียงสค์ แต่ครั้งล่าสุดนี้ถือว่าหนักที่สุดตั้งแต่ผมเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ได้ 1 เดือนมาแล้ว”
และฟิลลิปส์ยังตั้งข้อสังเกตว่า “ดูเหมือนว่าเคียฟจะเพิ่มจำนวนกำลังพลของกองกำลังพิเศษเป็น 2 เท่าในพื้นที่ และจากที่เห็นเหมือนพวกเขาจะเก่งขึ้นมากกว่าเดิมในปฏิบัติการทหารที่กำลังพยายามยึดเมืองคืนจากกลุ่มปกป้องตนเองยูเครนตะวันออกที่ได้เข้าควบคุมตั้งแต่วันที่ 12เมษายน เป็นต้นมา”
ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยรักษาการของยูเครน อาร์เซน อาวาคอฟ กล่าวผ่านเฟซบุ๊ก ยังไม่มีรายงานการสูญเสีย แต่ทราบว่าหนึ่งในผู้โจมตีค่ายที่พักของแนชันแนลการ์ดใกล้สลาเวียงสค์โดนสังหาร และมีอีกคนได้รับบาดเจ็บและถูกจับกุม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่”
และอาวาคอฟเสริมว่า “ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังค่ายของแนชันแนลการ์ดทุกเช้าหากไม่มีการติดต่อมาในช่วงกลางดึก และทุกคนชินกับสภาพสงครามแล้ว”
รายงานการบุกโจมตีอย่างหนักของกลุ่มแนชันแนลการ์ด มีขึ้นหลังจากโดเนตสค์ได้ยื่นเส้นตาย 24 ชม. ให้เคียฟถอนกำลังทหารกลับออกไปทั้งหมดเมื่อวันพฤหัสบดี (15) และทางโดเนตสค์ขู่จะใช้กำลังหากเคียฟไม่ปฏิบัติตาม และหลังจากนั้นเคียฟประกาศให้กลุ่มปกป้องตนเองอยู่ในรายชื่อกลุ่มก่อการร้าย และทางรัฐบาลยูเครนกำลังดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด
ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่นี้ประกาศแยกตนเองเป็นอิสระจากยูเครนหลังจากมีการทำประชามติในวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ในขณะที่มีการประท้วงจำนวนหลายร้อยคนที่หน้าสถานทูตยูเครนในกรุงโรม อิตาลี ในวันเสาร์ (17) จัดโดย จูเลียตโต คีซา (Julietto Kieza) นักสื่อสารมวลชนเลื่องชื่อเพื่อต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์ที่ก่อตัวขึ้นในยูเครนและยุโรป
โดยคีซาได้เปิดเผยกับรัพต์ลี สื่ออิตาลีว่า “เขาได้ตระหนักถึงเหตุการณ์ที่เรียกว่า การปฏิวัติของยูโรแมแดน (Euromaidan) ที่ได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐฯ และถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ลัทธินาซีเกิดขึ้นอีกครั้งที่ใจกลางยุโรปโดยได้รับความสนับสนุนจากสหรัฐฯ”
การประท้วงที่มีผู้เข้าร่วมมากมายได้สะท้อนความคิดในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน มีป้ายข้อความเขียนวิจารณ์อดีตนายกรัฐมนตรีของยูเครน ยูเลีย ทิโมเชนโก ว่าเป็นเสมือนฮิตเลอร์ และบอกให้นาโตไปให้พ้น และอีกป้ายเขียนข้อความในภาษาอิตาลีว่า “ไม่...สำหรับกลุ่มรัฐประหารนาซีในยูเครน”
นอกจากนี้ คีซา ยังกล่าวตบท้ายว่า “ตอนนี้ยุโรปกำลังเข้าใจถึงอันตรายที่กำลังเผชิญหน้า เพราะไม่มีทางออกในวิกฤตยูเครนในทิศทางที่สหรัฐฯเป็นผู้สร้าง และยุโรปต้องกำลังรับผิดชอบ”
และเอพีได้รายงานว่า ทางด้านรัสเซียได้ออกโรงประนามเคียฟ โดยกระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ประนามว่า การเพิ่มความตรึงเครียดอย่างฉับพลันในวิกฤตล่าสุดที่ยูเครนตะวันออก เพราะเคียฟมีลูกเล่นใช้การเจรจามาปกปิดปฏิบัติการทหารเพื่อเข่นฆ่าประชาชนของตนเอง
ซึ่งนักการเมืองยูเครนตะวันออกได้นั่งอยู่ในวงเจรจากับตัวแทนเคียฟที่จัดเป็นรอบที่ 2 ในคาร์คีฟเมื่อวานนี้ (17) โดยฝ่ายตัวแทนยูเครนตะวันออกเน้นไปที่ชาวยูเครนตะวันออกไม่พอใจที่เคียฟไม่เคยฟังเสียงเรียกร้องของพวกเขา และชาวท้องถิ่นมีความต้องการที่จะออกมาลงประชามติในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศรัสเซียยังได้กล่าวถึงการปะทะที่สลาเวียงสค์ในเช้าวันเสาร์ (17) ว่า มีผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่งแต่ไม่ระบุตัวเลขแน่นอน
ก่อนหน้านั้น ที่เมืองมาริอูโปล คนงานโรงงานเหล็กได้กรูเข้ายึดตึกทำการท้องถิ่นจากกลุ่มปกป้องตนเองยูเครนตะวันออกเป็นผลสำเร็จ และสามารถรื้อสิ่งกีดขวางที่กลุ่มปกป้องตนเองได้สร้างขึ้น ซึ่งมาริอูโปลถือเป็นหนึ่งในเมืองอุตสาหกรรมหลักในโดเนตสค์ที่อยู่ติดกับไครเมียของรัสเซียที่ได้ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียก่อนหน้านี้
และมีเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันในหมู่บ้านเวลีกา โนโวซิลกา (Velyka Novosilka) ที่มีหน่วยกองกำลังแต่งชุดสีดำสามารถเข้าควบคุมสถานีตำรวจท้องถิ่น และปฏิญาณที่จะเดินหน้ากำจัดกลุ่มปกป้องตนเองในโดเนตสค์ด้วกำลังทหารถ้าหากจำเป็น