เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - อดีตนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโกนีแห่งอิตาลี ออกโรงเตือนในวันอังคาร (20) โดยระบุเงินยูโรอาจถึงคราวต้องล่มสลาย หากไม่มีการปฏิรูปครั้งใหญ่ภายในสหภาพยุโรป (อียู) พร้อมชี้ มีแต่ “คนบ้า” เท่านั้นที่คิดเป็นศัตรูกับวลาดิเมียร์ ปูติน และคิดคว่ำบาตรต่อรัสเซีย
แบร์ลุสโกนี วัย 77 ปี เปิดใจให้สัมภาษณ์รายการ “นิวส์ไนท์” ของสถานีโทรทัศน์บีบีซีโดยระบุว่านโยบายด้านเศรษฐกิจที่ไร้ซึ่ง “ความสมดุล” ของอียูถือเป็นภัยคุกคามอย่างสำคัญต่อการดำรงอยู่ของเงินยูโรและกลุ่มยูโรโซนหรือกลุ่ม 18 ชาติในยุโรปที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลเดียวกัน
“เราต้องปฏิรูปครั้งใหญ่และต้องขุดรากถอนโคนสิ่งที่เป็นต้นตอแห่งปัญหาทั้งมวลภายในอียู หากเรายังต้องการให้เงินยูโรยังคงได้รับการยอมรับอยู่ต่อไป ก่อนที่ประเทศต่างๆ ในยุโรปคงจะหันหลังให้เงินยูโร และหันกลับไปใช้เงินสกุลดั้งเดิมของตัวเอง” แบร์ลุสโกนี ระบุ
แบร์ลุสโกนี ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีหลายสมัย และยังคงเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล “ปีศาจแดง-ดำ” เอซี มิลานในศึกกัลโช เซเรีย อาของแดนมะกะโรนี ยังกล่าวเตือนด้วยว่า ความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯและหลายชาติในยุโรปขณะนี้ที่ต้องการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเมืองต่อรัฐบาลรัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จากผลพวงของ “วิกฤตยูเครน” นั้นจะถือเป็น “ความผิดพลาดใหญ่หลวง”
“การคว่ำบาตรรัสเซีย และการเป็นปฏิปักษ์กับชายที่ชื่อวลาดิเมียร์ ปูติน ถือเป็นความคิดของพวกวิกลจริต และถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ผมเชื่อว่าคงไม่มีคนปกติรายใดเลือกที่จะทำในสองสิ่งนี้เป็นแน่ ผมมองไม่เห็นเหตุผลใดที่ยุโรปจะต้องคว่ำบาตรรัสเซียตามแรงกดดันของสหรัฐฯ ตราบใดที่ยุโรปยังต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมาหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจ” อดีตนายกฯ อิตาลีกล่าวทิ้งท้าย
