"ไอเอ็มเอฟ" ฉุน! ปธน.มาลีกู้เงินซื้อ "เครื่องบินหรู" ประจำตำแหน่งทั้งที่ประเทศยังยากจน

เอเอฟพี - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แสดงความกังวลวานนี้(19) ถึงเรื่องเครื่องบินหรูลำใหม่ราคา 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของประธานาธิบดีมาลี ทั้งที่ประเทศยากไร้แห่งนี้ยังต้องพึ่งความช่วยเหลือจากนานาชาติอยู่อย่างมาก

"เรามีความเป็นห่วงเรื่องความคุ้มค่าของการตัดสินใจในหลายเรื่องของทางการมาลีเมื่อเร็วๆ นี้ เช่น การจัดซื้อเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดีมูลค่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,290 ล้านบาท) และการออกพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์หรัฐ (6,490 ล้านบาท) เพื่อสำรองให้กับบริษัทเอกชนสำหรับการจัดซื้อสิ่งของจำเป็นทางการทหารให้กับกองทัพ" โฆษกไอเอ็มเอฟบอกกับเอเอฟพี

โฆษกไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า เงินที่ใช้จัดซื้อเครื่องบินของประธานาธิบดี อิบราฮิม บูบาการ์ เคอิตา นั้น ไม่ได้มาจากเงินทุนช่วยเหลือฉุกเฉินมูลค่า 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1 พันล้านบาท) ที่ไอเอ็มเอฟจัดสรรให้กับประเทศมาลี เมื่อปีที่แล้ว

เงินก้อนดังกล่าวมาจากการกู้ยืมจากธนาคารเอกชนแห่งหนึ่งของมาลี

อย่างไรก็ตาม โฆษกไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า การซื้อเครื่องบินและการค้ำประกันนั้นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึง "ความไร้สมรรถภาพในการบริหารจัดการด้านการคลังของรัฐ"

กรณีดังกล่าวจะทำให้การทบทวนแผนอนุมัติเงินกู้รอบใหม่จาก ไอเอ็มเอฟ ที่เคยกำหนดไว้ที่เดือนมิถุนายนล่าช้าออกไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่การทบทวนที่ล่าช้าออกไปนี้จะนำไปสู่การเพิ่มกรอบข้อจำกัดด้านการเงินต่อรัฐบาลมาลีมากขึ้น

แผนปล่อยกู้ที่อนุมัติเมื่อเดือนธันวาคม "กำหนดว่า รัฐบาลจะต้องให้คำมั่นว่าจะกำกับดูแลการเงินของประเทศให้อยู่ในแนวทางที่เหมาะสม โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนา การเติบโตภายในประเทศ และกำหนดยุทธศาสตร์ในการลดปัญหาความยากจนเป็นอันดับแรก"

"การได้รับข้อมูลที่น่าพึงพอใจเกี่ยวกับการดำเนินการตามคำมั่น ซึ่งจะทำให้ไอเอ็มเอฟไว้วางใจว่ารัฐบาลมาลียังคงไว้ได้ซึ่งเสถียรภาพทางการเงิน และการบริหารการเงินของรัฐที่ดีตามข้อตกลงที่ให้ไว้นั้น อาจต้องใช้เวลาพอสมควร" โฆษกไอเอ็มเอฟ กล่าว