เอเอฟพี - ผู้ว่าการโตเกียว โยอิชิ มาสุโซเอะ วันนี้ (19 พ.ค.) ออกมาให้คำมั่นว่าจะหาทางผ่อนคลายกฎระเบียบอันเข้มงวด เพื่อดึงชาวต่างชาติศักยภาพสูงเข้ามาในเมืองหลวง ซึ่งเป็นความพยายามกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต และชิงตำแหน่งจุดศูนย์กลางทางธุรกิจของทวีปเอเชียกลับคืนมาจากคู่แข่งอย่างสิงคโปร์
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีนโยบายว่าด้วยคนเข้าเมืองที่เข้มงวดมาก และธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการดึงดูดแรงงานมีฝีมือเข้ามา ก็ต้องต่อสู้กับระเบียบราชการหยุมหยิม และมีขั้นตอนมากเกินไป ซึ่งปัจจัย 2 ประการนี้มีแนวโน้มจะทำให้บรรดาบริษัทระดับโลก และนักลงทุนชาวต่างชาติท้อจนต้องถอยทัพกลับไป
มาสุโซเอะกล่าวในการแถลงต่อสื่อต่างชาติว่า “เราจำเป็นต้องดึงชาวต่างชาติที่มีมันสมองจำนวนมากเข้ามาในญี่ปุ่น เรากำลังขาดแคลนคนหนุ่มสาวที่มีศักยภาพ”
มาสุโซเอะสัญญาจะผ่อนคลายกฎระเบียบว่าด้วยแรงงาน ในเขตพิเศษของโตเกียวตามที่วางแผนเอาไว้ เพื่อให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาอยู่อาศัยและทำงานได้ง่ายขึ้น โดยเขาจะทำงานร่วมกับรัฐบาลกลาง
การออกมาให้คำมั่นเช่นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขับเคลื่อนโตเกียวสู่การเป็นจุดศูนย์กลางทางธุรกิจ การรักษาพยาบาล และการพัฒนาเภสัชกรรมที่คึกคักมีชีวิตชีวามากขึ้น
เขาเกิดความคิดริเริ่มนี้ขึ้น ขณะที่ชาวญี่ปุ่นโดยทั่วไปมองว่า โตเกียวเสียจุดขายในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระดับนานาชาติ หลังประสบสภาวะเศรษฐกิจชะงักงันมานาน 2 ทศวรรษ ทั้งยังเป็นผลมาจากกฎระเบียบคร่ำครึที่ไม่เหมาะกับยุคโลกาภิวัตน์
แม้ว่ามาสุโซเอะจะมองว่า ในเวลานี้สิงคโปร์กำลังเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ และการพัฒนาเภสัชกรรมอันดับต้นๆ ของเอเชีย แต่เขาชี้ว่า ยังมีความหวังที่โตเกียวจะกลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง
มาสุโซเอะกล่าวว่า “ผมจะทำให้โตเกียวกลับมาเป็นศูนย์กลาง...อีกครั้งภายในปี 2020” เมื่อเมืองหลวงของญี่ปุ่นรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน
นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นว่า จะปรับปรุงระบบภาษีและข้อกำหนดว่าด้วยการอยู่อาศัย เพื่อกระตุ้นให้เกิดกิจการใหม่ๆ ขึ้นมา ซึ่งรวมถึงธุรกิจที่ก่อตั้งโดยนักเรียนนอก
มาสุโซเอะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ด้วยการชูนโยบายปฏิรูป โดยเขาได้รับเสียงสนับสนุนอย่างกว้างขวาง เป็นต้นว่า จากนายกรัฐมนตรีอนุรักษนิยม ชินโซ อาเบะ ตลอดจนบรรดาสหภาพแรงงาน