เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย ขณะที่ประชาชนอีกนับหมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเอง และอีกมากกว่า 250,000 ครัวเรือน ต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ในเซอร์เบีย และบอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา ชี้ เป็นอุทกภัยที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของคาบสมุทรบอลข่าน
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า เหตุน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 30 ราย อย่างไรก็ดี คาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้จะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น
นายกรัฐมนตรี อเล็กซานดาร์ วูซิช แห่งเซอร์เบีย แถลงที่กรุงเบลเกรด โดยระบุว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือว่ามีความรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของคาบสมุทรบอลข่าน พร้อมประกาศขอรับบริจาค “เรือ” เป็นการเร่งด่วนเพื่อนำไปใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตั้งแต่วันศุกร์ (16) คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในเซอร์เบียและบอสเนีย โดยผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาในพื้นที่ เผยว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในประเทศทั้งสองในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมานั้น มีปริมาณสูงกว่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรวมกันถึง 4 เดือนในคาบสมุทรบอลข่าน
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า เหตุน้ำท่วมครั้งนี้ ส่งผลให้ทางการเซอร์เบียและบอสเนีย ต้องยุติการจ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นบริเวณกว้างทำให้มากกว่า 250,000 ครัวเรือนต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นบ้านในเซอร์เบียราว 135,000 หลัง
ทั้งนี้ มีรายงานว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากอุทกภัยครั้งนี้ คือ ที่เมืองโอเบรโนวัช ที่อยู่ชานกรุงเบลเกรดของเซอร์เบีย เนื่องจากพื้นที่มากกว่าร้อยละ 90 ของเมืองจมอยู่ใต้น้ำที่สูง 2-3 เมตร หลังจากที่แม่น้ำโคลูบาราล้นตลิ่งเอ่อท้นเข้าท่วมเมือง